หากพูดถึงขนมไทยในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่ดีเลิศทั้งเรื่องแพ็กเก็จจิ้ง รสชาติ หรือรูปแบบขนม จนหลายคนติดอกติดใจ อย่างแบรนด์ EZY SWEET บางคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นแบรนด์ของเซเว่นผลิตเองทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ส่วนใหญ่ล้วนมาจากฝีมือการผลิตของผู้ประกอบการ SME ไทย หนึ่งในนั้นก็คือ บริษัท เจ เอช แอนด์ สโนว์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของแบรนด์ “แม่สุนีย์ ขนมไทย” และเป็นผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ EZY SWEET นั่นเอง โดยที่มาจากความเข้าใจผิดนี้ มาจากเมื่อ 10 ปีก่อนที่บริษัทต้องการพัฒนาสินค้าเข้าวางขายในเซเว่น แต่ด้วยขณะนั้นชื่อแบรนด์ยังไม่ป็นที่รู้จักและแข็งแรงพอ จึงได้ร่วมพัฒนาสินค้ากับทางเซเว่น พร้อมขอใช้ชื่อแบรนด์ EZY SWEET จากทางเซเว่น อีเลฟเว่น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ปัจจุบันมีสินค้าวางขายในเซเว่น อีเลฟเว่น กว่า 13 รายการ ได้แก่ 1.เต้าส่วนทรงเครื่อง 2.กล้วยปิ้งน้ำตาลมะพร้าว 3.กล้วยปิ้ง 4.เปียกปูนดอกไม้ 5.ขนมกล้วย 6.พุดดิ้งชาไทย 7.พุดดิ้งนมเย็นบุกบราวน์ชูการ์ 8.ชุดรามนึ่งสามสหาย 9.ข้าวเหนียวเปียกลำไย 10.ลูกเดือยเปียกน้ำกะทิ 11.กล้วยไข่เชื่อมน้ำกะทิ 12.ตะโก้สามสหาย 13.พุดดิ้งโอวัลดิน โดยมีสินค้าขายดีได้แก่ เต้าส่วนทรงเครื่องและกล้วยปิ้ง ซึ่งสามารถสร้างอัตราการเติบโตด้านยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มียอดขายสูงกว่า 260 ล้านบาท
สำหรับหัวใจสำคัญในการทำให้ขนมไทยสามารถเติบโตได้ในตลาดโมเดิร์นเทรด คุณก้องปพัฒน์ เรืองจินดาชัยกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เจ เอช แอนด์ สโนว์ กรุ๊ป จำกัด เล่าให้ฟังว่า การที่ขนมไทยจะเติบโตได้ในตลาดโมเดิร์นเทรดได้นั้นต้องประกอบด้วย 2 ดี ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตนั่นก็คือ 1.สินค้าดี และ 2.พันธมิตรดี
สินค้าดี : ต้องมี “เอกลักษณ์-มาตรฐาน-ความอร่อย”
คำจำกัดความของคำว่า “สินค้าดี” คือ ขนมไทยจะต้องมีความเป็นเอกลักษณ์ ได้มาตรฐาน และต้องมีความอร่อย
เอกลักษณ์ : ขนมของบริษัทจะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ 100% เพื่อยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของขนมไทย ที่จะใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นนำมาทำขนม เช่น ใบเตย บริษัทใช้ใบเตยสดในการทำขนม เพื่อให้ได้กลิ่นและรสชาติของขนมไทยอย่างแท้จริง โดยใช้ใบเตยประมาณ 2-3 ตันต่อวัน หรือ กล้วย บริษัทฯก็จะคัดเลือกกล้วยที่มีเมล็ดน้อย เพื่อสะดวกต่อการรับประทาน
มีมาตรฐานตรวจสอบได้ : วัตถุดิบที่นำมาผลิตต้องสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ว่ามาจากที่ไหน เพื่อที่เวลาเกิดปัญหาจะแก้ที่ต้นทางได้ทันที เพื่อลดการสูญเสียต้นทุนในการผลิต เช่น บริษัทฯจะเปิดรับซื้อกล้วยเกษตรกรจากพื้นที่ต่างๆ เป็นล็อต ๆ เพื่อให้นำมาส่งตามวันเวลาที่กำหนด ทำให้รู้ได้ว่ากล้วยของวันนี้มาจากที่ไหน หากมีปัญหา ก็จะได้แจ้งเกษตรกรพื้นที่นั้น ๆ ในส่วนของกระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบก็ต้องใช้เครื่องตรวจรับเพื่อให้ได้คุณภาพตรงตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ เพื่อลดความเสียหายจากวัตถุดิบที่ไม่ได้มาตรฐาน ขณะที่กระบวนการจัดเก็บก็ต้องจัดเก็บในพื้นที่จัดเตรียมไว้ในร่ม เพื่อรักษาคุณภาพวัตถุดิบให้สดใหม่ก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิต รวมถึงยังต้องรักษารสชาติให้ได้มาตรฐานเดียวกันในทุกถ้วย
อร่อย : ขนมไทยที่อร่อยคือ ขนมที่เมื่อได้รับประทานไปแล้วต้องให้ความรู้สึกว่าอยากรับประทานต่อ โดยยังคงรสชาติของขนมไทยที่หวาน หอม กลมกล่อมครบรสขนมไทยอย่างที่คุ้นเคยไว้ได้ครบถ้วน บริษัทเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีจากแหล่งที่มาที่มีคุณภาพ เพื่อให้ขนมทุกชิ้น ทุกถ้วยมีความอร่อย กล่าวถึงขนมไทยพื้นบ้านเป็นขนมอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับคำขวัญของบริษัท เจ เอช แอนด์ สโนว์ กรุ๊ป จำกัด “แม่สุนีย์ ขนมไทย ใส่ใจทุกขั้นตอน ในการทำขนมไทย”
พันธมิตรดี : ช่วยสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน
ด้วยพันธมิตรที่ดีมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้บริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดโมเดิร์นเทรด การเติบโตเพียงลำพังอาจเป็นการเติบโตแบบไม่ยั่งยืน พันธมิตรที่สำคัญของบริษัทคือ เซเว่น อีเลฟเว่นและกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเซเว่น อีเลฟเว่น มีส่วนช่วยสร้างการเติบโตให้กับบริษัทอย่างมากในเรื่องของช่องทางขาย การให้องค์ความรู้ และการเชื่อมโยงเครือข่าย เพราะการทำการค้าในตลาดโมเดิร์นเทรดจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ให้ทันตลาด ทั้งเซเว่น อีเลฟเว่น ยังมีกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ ทำให้มองเห็นเทรนด์และความต้องการของตลาดเป็นอย่างดี ล่าสุดก็ได้จัดแคมเปญ “เปิดวาร์ปความอร่อยขนมไทยจาก SME” ซึ่งทางบริษัทก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมเช่นกัน
สำหรับพันธมิตรกลุ่มเกษตรกร หากวัตถุดิบไม่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐานก็จะส่งผลต่อคุณภาพสินค้า โดยบริษัทจะรับซื้อวัตถุดิบจากเครือข่ายพันธมิตรเกษตรกรในพื้นที่และนอกพื้นที่ ที่มีการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานของบริษัท เพื่อให้มั่นใจได้ว่าขนมทุกกล่องที่ถูกส่งถึงมือผู้บริโภคล้วนมาจากวัตถุดิบชั้นดีมีคุณภาพ โดยในแต่ละปีบริษัทรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรมากกว่า 4,000 ตันต่อปี ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางช่วยกระจายรายได้กลับสู่ชุมชน
คุณก้องปพัฒน์ เล่าทิ้งท้ายว่า เซเว่น เปรียบเสมือนเป็นผู้แนะนำและช่องทางการกระจายสินค้าให้ผู้ประกอบการ SME มีโอกาสเติบโตได้ ซึ่งในแง่ผู้ประกอบการเองก็ต้องตั้งใจพัฒนาสินค้าให้ได้คุณภาพ เพื่อการเติบโตไปพร้อมกันได้ในระยะยาว สำหรับใครที่ต้องการนำสินค้าเข้าไปขายในเซเว่น ต้องบอกว่าการเป็นบริษัทขนาดเล็กอย่าง SME หากจะสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนได้ ต้องอาศัยพันธมิตรที่ดีช่วยดำเนินงานตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง และต้องมีความพร้อมทั้งในแง่การพัฒนาสินค้าและการผลิตเพื่อสร้างความยั่งยืนในการทำธุรกิจ โดยอาจเริ่มต้นจากการนำสินค้าเข้าไปเสนอ พร้อมทดลองตลาดด้วยการวางขายในบางสาขาของ 7-Eleven นอกจากนี้ ต้องหมั่นเรียนรู้ และหาความรู้ใหม่เพิ่มเติมให้ตัวเองอยู่เสมอ
พิเศษ! ในเดือนมีนาคมนี้ 7-Eleven ได้รวบรวมสินค้าขนมไทยจาก SME เพื่อผลักดันให้เป็น Soft Power กว่า 80 รายการ ที่ได้ร่วมพัฒนากับผู้ประกอบการ ทั้งจากแบรนด์แม่สุนีย์รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย ในแคมเปญ “เปิดวาร์ปความอร่อยขนมไทยจาก SME” ใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศกว่า 14,000 สาขา