JASPAL ธุรกิจขายผ้าย่านพาหุรัดสู่แบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ รายได้กว่าพันล้าน


JASPAL อีกหนึ่งแบรนด์ธุรกิจครอบครัวที่ประสบความสำเร็จในการทำกิจการ สร้างอาณาจักรเป็นผู้นำสินค้าแฟชั่นที่ทำรายได้กว่าหลายพันล้านบาท มีสาขาทั้งใน และนอกประเทศ

JASPAL เริ่มต้นธุรกิจ โดยยัสปาล ซิงค์ ชาวอินเดียที่เดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทย แน่นอนว่าย่านที่ชาวอินเดียพักอาศัยหนีไม่พ้น “พาหุรัด” และอาชีพส่วนใหญ่ที่ทำกัน คือ “ขายผ้า” ซึ่งยัสปาล ซิงค์ ก็ทำเช่นกัน จากธุรกิจเล็ก ๆ ขยายไปสู่ธุรกิจเครื่องนอน ซึ่งทั้งคู่เป็นการนำเข้ามาขาย หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2515 ได้เดินมาสู่สินค้าแฟชั่นแบรนด์ JASPAL

มาถึงตอนนี้ธุรกิจเดินทางมามากกว่า 70 ปีแล้ว และบริหารงานโดยทายาทรุ่นที่ 3

หากย้อนกลับไป เพราะอะไรแบรนด์ JASPAL ถึงสร้างมูลค่า ยกระดับ กลายเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่มีชื่อเสียง คงต้องบอกว่าแบรนด์นำเสนอเสื้อผ้าที่มองดู และสวมใส่แล้วมีระดับ ขายในราคาไม่แพง ด้วยแนวทางนี้จึงทำให้แบรนด์เริ่มเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคมากขึ้น ธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

จากนั้นได้ขยายสู่โรงงานผลิตสิ่งทอขนาดใหญ่ มีการติดตั้งเครื่องจักรทั้งในรูปแบบการเย็บ และการปั่นด้าย ซึ่งปัจจุบันธุรกิจได้เป็นสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ไปเป็นที่เรียบร้อย

กลยุทธ์ของ JASPAL ที่ทำให้ธุรกิจเติบโต ทั้งในเรื่องของจำนวนลูกค้า และรายได้ มองได้ดังต่อไปนี้

– การนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย และอุตสาหกรรมที่อยู่ ผ่านการดีไซน์เสื้อผ้า ready-to-wear ที่มีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ ไม่ตกเทรนด์

– บอกตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ โดย JASPAL ชูจุดเด่นในเรื่องของการตัดเย็บเสื้อผ้าจากเนื้อผ้าที่ดีที่สุด จากแหล่งนำเข้าจากทั้งใน และต่างประเทศ

– ไม่ได้มีแค่แบรนด์ JASPAL เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีแบรนด์อื่น ๆ อีก เช่น LYN, CPS CHAPS, SHOE BAR, QUINN เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับแบรนด์ FOOTWORK, JELLY DREAMS, FRED PERRY รวมถึงแบรนด์เครื่องนอน เช่น ETHAN ALLEN, TEMPUR, SANTAS, BACKSAVER รวมทั้งหมด 25 แบรนด์ ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย

ด้านผลประกอบการบริษัท ยัสปาล จำกัด

– ปี 2565 รายได้รวม 9,051,405 ล้านบาท กำไรสุทธิ 706 ล้านบาท
– ปี 2564 รายได้รวม 6,467,351 ล้านบาท กำไรสุทธิ 288 ล้านบาท
– ปี 2563 รายได้รวม 6,550,917 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 145 ล้านบาท

ปัจจุบัน JASPAL เตรียมเปิด IPO เข้าไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่วนในเรื่องของธุรกิจแบรนด์ตั้งเป้าที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม, มาเลเซีย, กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ยกระดับแบรนด์ให้เป็นสินค้าแฟชั่นในภูมิภาค

ที่มา: jaspalgroup