ราคากาแฟโรบัสต้าทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยเวียดนามซึ่งเป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟรายใหญ่ที่สุด กำลังต่อสู้กับภัยแล้ง รวมถึงเกษตรกรได้เปลี่ยนมาปลูกทุเรียนแทน
ตามรายงานของ Barchart ผู้ให้บริการข้อมูลตลาด เผยว่าจนถึงตอนนี้ราคากาแฟปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกาแฟโรบัสต้าคาดการณ์ว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะมีราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีราคามากกว่า 4,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.5 แสนบาท) สอดคล้องกับ Nikkei Asia ที่รายงานว่าหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ราคากาแฟทั่วโลกพุ่งสูงคือข้อจำกัดของเวียดนามที่ต้องเผชิญกับภัยแล้งจนทำให้ได้ผลผลิตลดน้อยลง
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกษตรกรจำนวนมากในประเทศเปลี่ยนไปปลูกทุเรียน จากกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นในจีน ซึ่งเวียดนามก็เป็นผู้ส่งออกผลไม้ไปยังจีนเป็นอันดับต้น ๆ โดยการส่งออกทุเรียนของเวียดนาม มีมูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีที่แล้ว ซึ่ง 87% เป็นการส่งออกไปจีน และคาดว่ามูลค่าจะสูงถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้
การเปลี่ยนผ่านไปสู่การปลูกทุเรียนทำให้เป็นความท้าทายที่จะหาพื้นที่ในการปลูกที่มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันการปลูกกาแฟที่ต้องต่อสู้กับภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนิโญ่
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สมาคมโกโก้กาแฟเวียดนามเตือนว่าการส่งออกกาแฟในช่วง 12 เดือนก่อนถึงเดือนกันยายนอาจลดลงถึง 20% จากปีก่อน โดยอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ราคากาแฟสูงขึ้นคือการบริโภคที่สูงขึ้นในประเทศแถบเอเชีย โดยเพิ่มขึ้นเป็น 44.5 ล้านถุง นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 – กันยายน 2566 ที่เพิ่มขึ้น 12% จากสี่ปีก่อนหน้า และคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 25% ของการบริโภคกาแฟทั่วโลก
ที่มา: vnexpress