วันอาทิตย์, มิถุนายน 16, 2567

The Pizza company กับ Pizza Hut เปิดศึกปั่นราคา เขาให้มากเท่าไหร่ ฉันให้น้อยกว่า

by Anirut.j, 23 พฤษภาคม 2567

การทำธุรกิจสองเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ นั่นคือ “คู่แข่ง” และ “การตลาด” โดยทั้งคู่ต้องเดินไปด้วยกัน หากอยากจะประสบความสำเร็จ

ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีแบรนด์อาหารฟาสต์ฟู้ดที่เรียกว่าเป็น “คู่แข่ง” กันโดยตรง “ทำการตลาด” ด้านราคาที่เรียกว่าไม่มีใครยอมใคร เริ่มตั้งแต่ The Pizza Company ที่ออกโปรโมชัน วันเดย์ วันดีล โปรวันเดียว พิซซ่าถาดกลางเพียง 99 บาท (จากปกติ 299 บาท)

หลังจากถูกเผยแพร่ออกไปโปรโมชันนี้สร้างความฮือฮา กลายเป็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์กันอย่างกว้างขวาง และได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ดูได้จากสาขาของ The Pizza Company ที่มีลูกค้ามารอต่อแถวกันยาวเหยียด ไม่ใช่แค่นั้นแบรนด์ยังส่งเสริมการตลาดเพิ่มเข้าไปอีกกับการแจก Cry Baby และ Molly มากกว่า 10 รางวัล เพียงถ่ายรูปคู่กับพิซซ่าที่จัดโปรคู่กับคนไปกินด้วย

 

 

แม้ว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่เป็นโปรด้านราคาที่ค่อนข้างแรงทำให้บางครั้งอาจมีความผิดพลาด หรือให้บริการไม่ทั่วถึงทำให้ The Pizza Company ถึงต้องโพสต์ขออภัยในความไม่สะดวก และจะปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่หากมองภาพรวมถือว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียวกับการสร้างความรับรู้ให้กับแบรนด์


ให้หลังเพียง 1 วัน คู่แข่งสำคัญอย่าง Pizza Hut ก็จัดโปรโมชันออกมาเช่นกัน พร้อมทั้งนำข้อผิดพลาดของแบรนด์คู่แข่งมาทำให้ดีกว่าเดิม ผ่านฮัทจัดโปร 98 บาท ทุกหน้า ทุกหมวด พิซซ่าถาดกลางเริ่มราคาเพียง 98 บาท 2 วันเต็ม โดยต้องเปิดสั่งล่วงหน้าในวันที่กำหนดเท่านั้น

 

 

จะเห็นได้ว่า Pizza Hut บลัฟคู่แข่งด้วยการให้ราคาที่ถูกกว่า คือ 98 บาท และแก้ไขเรื่องการให้ลูกค้าไม่ต้องยืนต่อแถวซื้อเป็นระยะเวลานานด้วยการเปิดให้สั่งล่วงหน้า และให้มารับเองที่สาขา ซึ่งจะทำให้แบรนด์สามารถบริหารจัดการวัตถุดิบได้ เพราะรู้แล้วว่ามียอดออเดอร์สั่งเข้ามาเท่าไหร่

อย่างไรก็ตาม ด้วยกระแสสั่งซื้อที่เข้ามามากทำให้ระบบสั่งซื้อเกิดการขัดข้อง และไม่ทั่วถึงจึงทำให้ PizzaHut ต้องเปิดให้มีสั่งซื้อผ่านหน้าร้านจำกัด 5 ถาดต่อ 1 ออเดอร์ ในวันสุดท้ายของแคมเปญนี้

หลังจากโปรโมชันการตลาดของทั้ง The Pizza Company กับ Pizza Hut ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ดูเหมือนว่าการบลัฟยังไม่จบ มีการตอบโต้กันไปมา โดย The Pizza Company โพสต์ว่า “ถึงโปรจะลอกได้ แต่ความอร่อยลอกไม่ได้” ด้าน Pizza Hut ก็โพสต์ว่า “ขอบคุณทุกคนที่ตอบรับโปรฯ 98.-กันสุดปึ้ง จึ้งใจมากเลยฮัท มุแง้” ซึ่งมองว่าเป็นสีสันในเชิงธุรกิจก็ว่าได้ หรืออีกโพสต์หนึ่ง “ยืนยันว่าฮัทขายพิซซ่า ไม่ได้ขายขิง ขายแกง บ่ายโมงเจอกัน อดใจรอแป๊ป”

แน่นอนว่าการทำการตลาดของยักษ์ใหญ่แบรนด์พิซซ่าแห่งยุคที่ไม่มีใครยอมใคร เมื่อพิจารณาจากแคมเปญนี้แล้ว ถือว่าเป็นการกระตุ้นสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของราคา, เมนู ว่ามีอะไรบ้าง เป็นการสร้างยอดขายแบบฉับพลัน ใช้เวลาไม่นาน โดยอาศัย “ราคา” ที่เข้าเป็นส่วนสำคัญของการตัดสินใจของผู้บริโภค

แต่อีกมุมหนึ่ง การที่แบรนด์หนึ่งคิดโปรโมชันได้ก่อนก็จะสร้างความได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดเดียวกัน แต่ก็ต้องมาพร้อมกับความเสี่ยงในเรื่องของการบริหารจัดการ ระบบการสั่งซื้อที่ไม่สามารถการันตีความสมบูรณ์แบบ สร้างความพอใจให้กับลูกค้าทั้งหมดได้ และแบรนด์ที่มาทีหลังสามารถใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ปรับปรุงบริการให้ดีขึ้นกว่าคนที่ทำมาก่อนหน้านี้

สรุปสุดท้ายประโยชน์ก็จะตกมาอยู่กับผู้บริโภคที่มาทางเลือกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเจาะจงกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งเสมอไป

 


Mostview

Karun แบรนด์ชาไทยพรีเมียม ทำรายได้รวมปี 2566 กว่า 100 ล้านบาท

ในยุคที่ “ชาไทย” ครองเมือง การปั้นแบรนด์ขึ้นมาเพื่อเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคดูจะเป็นเรื่องหนักหนาอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะด้วยการแข่งขันที่มีผู้เล่นมากหน้าหลายตา แต่ละรายล้วนมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองจนเป็นภาพจดจำให้กับลูกค้า

Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เป็นคนไม่ใส่นาฬิกา เพราะได้แนวคิดอันน่าทึ่งมาจากคนสวน

เมื่อพูดถึงเครื่องประดับที่หลายคนตลอดจนนักธุรกิจต้องมีติดตัวหนึ่งในนั้นคือ “นาฬิกา” โดยสามารถแสดงถึงฐานะ และใช้ในการดูเวลาเพื่อบริหารทำเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่อีกด้านหนึ่งก็มีนักธุรกิจที่ไม่ใส่นาฬิกาเหมือนกันด้วยเหตุอันน่าทึ่งที่ชวนให้เกิดเป็นกรณีศ

Hitachi ฝึกพนักงาน 50,000 คน ใช้ AI พัฒนาสินค้า-บริการรองรับธุรกิจใหม่

Hitachi มีแผนที่จะฝึกอบรมพนักงานจำนวน 50,000 คน ภายในปี 2027 เพื่อพัฒนาบริการใหม่ ๆ โดยใช้เทคโนโลยี AI เข้ามามีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน

พาณิชย์จัดใหญ่ THAILAND SME SYNERGY EXPO 2024 เสริมแกร่ง SME สร้างอาชีพด้วยแฟรนไชส์

กระทรวงพาณิชย์โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมกับ สสว. และหน่วยงานพันธมิตร เตรียมจัดงาน “มหกรรมรวมพลัง SME ไทย: THAILAND SME SYNERGY EXPO 2024 แก้ปัญหาให้ SME สร้างอาชีพให้กับผู้ว่างงานด้วยแฟรนไชส์ คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท

คาดช่วงฟุตบอลยูโร 2024 มีเงินสะพัด 87,620 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้ซื้ออาหาร-เครื่องดื่ม

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ทำการสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของคนไทยในช่วงมหกรรมฟุตบอลยูโร 2024 คาดการณ์มีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจ 87,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0% เมื่อเทียบกับการแข่งขันคราวก่อน

SmartSME Line