เพราะอะไร? SME ถึงสนใจเข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ลดลง


สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการ SME ที่มีต่อนโยบายกระเป๋าดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อเจาะลึกความคิดเห็นในเรื่องของความพร้อม และความสนใจเข้าร่วมโครงการ รวมถึงแผนการใช้จ่ายเงินดิจิทัล

การสำรวจครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากสำรวจไปครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2566 ผ่านการสอบถามผู้ประกอบการ SME จำนวน 2,704 ราย ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 19-30 เม.ย.67

ผลของการสำรวจ พบว่า ผู้ประกอบการ SME เข้าร่วมโครงการอยู่ที่ 75.2% ลดลงจากผลสำรวจครั้งก่อนซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 82.9%

สาเหตุมาจากความกังวลเรื่องการใช้สิทธิ และการเบิกจ่ายเงิน เงื่อนไขของโครงการที่ให้ธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่เข้าร่วมได้ ทำให้ธุรกิจรายเล็กมีความกังวลต่อยอดผู้ที่จะมาใช้บริการ อีกทั้ง บางกลุ่มธุรกิจยังประเมินว่าธุรกิจของตนไม่เหมาะกับโครงการ รวมถึงการขาดความพร้อมด้านอุปกรณ์/เครื่องมือหรือทักษะความรู้ในการใช้งาน Super App

 

 

ด้านแผนการใช้จ่ายเงินดิจิทัล ผู้ประกอบการ SME สัดส่วน 77% ประเมินว่าจะนำเงินไปใช้จ่ายในหมวดสินค้าในชีวิตประจำวัน, 22.7% มีแผนนำเงินไปลงทุนต่อยอดทางธุรกิจ

ส่วนเงื่อนไขของโครงการที่กำหนดว่าต้องใช้ในร้านค้าขนาดเล็กก่อน 2 รอบ ถึงเบิกเงินสดได้ ผลสำรวจพบว่า ผู้ประกอบการ SME สัดส่วน 55.4% ที่สนใจเข้าร่วมโครงการมีแผนการนำเงินดิจิทัลไปใช้จ่ายสินค้าในครัวเรือนมากที่สุด

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการ SME ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ประเมินแนวโน้มหากเข้าร่วมโครงการ พบว่า ธุรกิจของตนจะมียอดขายและ/หรือบริการเพิ่มขึ้นประมาณ 21-40% ตลอดระยะเวลาจนสิ้นสุดโครงการ เพราะคาดการณ์ว่าผู้มีสิทธิ์จะทยอยใช้งานอย่างต่อเนื่อง

 

 

สุดท้าย ผู้ประกอบการ SME มีความกังวลในด้านระบบ และขั้นตอนรองรับ รวมถึงเสถียรภาพของการใช้งานแอปพลิเคชันใหม่มากที่สุด รองลงมา คือเงื่อนไขและการใช้สิทธิ เนื่องจากกลุ่มธุรกิจรายเล็ก และธุรกิจขนาดย่อมกังวลว่าไม่มีร้านค้าที่ตรงตามความต้องการในพื้นที่ รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ไปใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อรายย่อย เช่น 7-Eleven รวมถึงกังวลเรื่องอื่น ๆ เช่น กลัวโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง