ในยุคที่ “ชาไทย” ครองเมือง การปั้นแบรนด์ขึ้นมาเพื่อเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคดูจะเป็นเรื่องหนักหนาอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะด้วยการแข่งขันที่มีผู้เล่นมากหน้าหลายตา แต่ละรายล้วนมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองจนเป็นภาพจดจำให้กับลูกค้าที่สักครั้งหนึ่งต้องมาลองให้ได้
หากเราดูแบรนด์ที่อยู่ในตลาดนี้ก็จะพบเห็นแบรนด์ชาไทยที่ประสบความสำเร็จจากการปั้นแบรนด์ที่เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ ขยับขยายกิจการจนเติบโตกลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อปีกว่า 100 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือ “Karun” แบรนด์ชาไทยระดับพรีเมียมที่ Smartsme จะพามาทำความรู้จักในบทความนี้
รู้หรือไม่ว่า “Karun” เป็นแบรนด์ที่มีอายุกิจการมากกว่า 20 ปี แล้ว โดยคุณ “รัส” ธัญย์ณภัคช์ ศิริประภาเจริญ ได้เข้ามาต่อยอดเปลี่ยนสูตรของคุณแม่ที่คิดค้นมาให้เป็นชาไทยระดับพรีเมียม แน่นอนว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะการจะเปลี่ยนชาไทยที่ทำไว้กินเองในครอบครัวสู่ธุรกิจที่ต้องขายให้คนทั่วไปเป็นโจทย์ที่ต้องเตรียมความพร้อมให้ดี

แม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์การทำธุรกิจมาก่อน ทำให้คุณรัสต้องทำการบ้านอย่างหนัก เริ่มตั้งแต่การเรียนรู้กระบวนการทำชาไทย, การทำการตลาด, การหาวัตถุดิบ ตลอดจนการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคซึ่งเป็นส่วนสำคัญ และได้คำตอบว่าการทำชาไทยระดับพรีเมียมที่ให้คนยอมจ่ายเงิน 100 บาท มีความเป็นไปได้
ผลประกอบการบริษัท การัน เบฟเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด
– ปี 2564 รายได้รวม 9.3 ล้านบาท ขาดทุน 4.1 ล้านบาท
– ปี 2565 รายได้รวม 26.2 ล้านบาท ขาดทุน 9 แสนบาท
– ปี 2566 รายได้รวม 101 ล้านบาท กำไร 9.2 ล้านบาท
แน่นอนว่า “Karun”วางตัวเองว่าเป็น “ชาไทย” ระดับพรีเมียม ดังนั้นทุกอย่างที่เกี่ยวกับแบรนด์ต้องดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น เราจึงเห็นการออกแบบร้าน, แพ็คเกจจิ้ง, การถ่ายภาพเพื่อประชาสัมพันธ์ ที่ออกมาดูหรูหรา มองดูแล้วเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์

อีกทั้ง การเลือกทำเลที่ตั้งของสาขาก็จะเลือกอยู่ตามห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง เช่น Siam Paragon, centralWorld, Gaysorn Village ซึ่งศูนย์การค้าเหล่านี้ก็มีภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกับแบรนด์ “Karun” ในเรื่องของความพรีเมียม
เมื่อมามองถึงเมนูเครื่องดื่ม “Karun” ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการออกเครื่องดื่มใหม่ ๆ ที่มีความพิเศษ ไม่เหมือนใคร กับคอนเซปต์ทำชาไทยให้เป็นไปได้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เทียนหอมกลิ่นชาไทย รวมถึงสูตรลับที่ไม่เหมือนใครจากคุณแม่ที่แสดงความเป็นตัวจริงของเครื่องดื่มประเภทนี้จริง ๆ
จากเหตุผลที่ยกมาผสมรวมกันจึงทำให้ “Karun” เป็นแบรนด์ชาไทยพรีเมียมที่ประสบความสำเร็จกับสถานะที่วางเอาไว้ โดยแบรนด์สามารถทำถึงจริง ๆ และยังมีแบรนด์คู่แข่งน้อยมากที่จะก้าวมาท้าชิงในตอนนี้
ที่มา: Karun Thai Tea, hellomagazine, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, THE INSIDER
เรื่องที่เกี่ยวข้อง