รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
แน่นอนว่าการไปดูฟุตบอล สิ่งที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของ “อาหาร” และ “เครื่องดื่ม” ที่ดูจะเป็นเหมือนของคู่กันสำหรับคนดู แต่การแข่งขันในครั้งนี้ เยอรมนีเจ้าภาพยูโรตัดสินใจสั่งห้ามแฟนฟุตบอลนำผลไม้เข้าสนาม เช่น แอปเปิล, กล้วย, ส้ม ตลอดจนอาหารประเภทอื่น ๆ
มีการวิเคราะห์หันว่าสาเหตุที่เจ้าภาพออกกฎระเบียบนี้ออกมา เป็นเพราะพวกเขามีความต้องการกระตุ้นยอดขายไส้กรอก ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมให้มากขึ้นกว่าเดิม และเป็นการผลักดันธุรกิจของท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมีรายได้มากยิ่งขึ้น สร้างโอกาสในทัวร์นาเมนท์นี้
สำหรับไส้กรอกที่วางขายในสนามนั้นจะเป็นไส้กรอก Bratwurst และ Frankfurters ที่ขายในราคา 3.77 ปอนด์ (ประมาณ 170 บาท) นอกจากนี้แกงกะหรี่วีแกนที่มีรสชาติแบบท้องถิ่นขายราคาอยู่ที่ 4.50 ปอนด์ (ประมาณ 209 บาท)
นอกจากนี้ เยอรมนียังแบนบุหรี่ไฟฟ้า, พลุไฟ, นกหวีด, โทรโข่ง, ธงขนาดใหญ่ต่าง ๆ ตลอดจนการสูบกัญชา และบุหรี่ไฟฟ้าในสนาม หากมีการฝ่าฝืนจะถูกเจ้าหน้าที่เชิญออกจากสนามการแข่งขันทันที และถูกแบนห้ามเข้าสนามในนัดถัดไป
เมื่อมองในมุมของการตลาด การเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ของเยอรมนีที่ 4 ปีมี 1 ครั้ง ย่อมต้องอาศัยความได้เปรียบของตัวเอง โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจที่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของแฟนบอลชาติต่าง ๆ ที่เดินทางมารับชม และการให้ขายได้แค่ “ไส้กรอก” ในสนามก็ยังเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นให้แบรนด์เป็นที่รู้จักของผู้คนมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะในแค่เยอรมนีเท่านั้น
เช่นเดียวกับในเรื่องของยอดขาย เมื่อขายแค่ “ไส้กรอก” อย่างเดียวในสนาม จึงทำให้ผู้ชมไม่มีทางเลือกมากนัก หากหิว และอยากหาอะไรรองท้อง อีกทั้ง “ไส้กรอก” ก็เป็นอาหารที่กินง่ายอยู่แล้ว
ที่มา: themirror
เรื่องที่เกี่ยวข้อง