วันจันทร์, กรกฎาคม 1, 2567

กองทุนรวมแบบปันผล-แบบไม่ปันผล เลือกแบบไหนดี

by Anirut.j, 28 มิถุนายน 2567

อีกหนึ่งรายละเอียดของผู้ที่อยากจะลงทุนในกองทุนรวม คือจะมีกองทุน 2 ลักษณะ คือ 1.แบบปันผล 2.แบบไม่ปันผล โดยทั้งสองแบบมีความแตกต่างกัน ซึ่งเหรียญมี 2 ด้าน ไม่มีอะไรผิด-ถูก แต่อยู่ที่ว่าเราตัดสินใจเลือกแบบไหน

แล้วข้อดีข้อเสียของกองทุนรวมแบบจ่ายปันผล และไม่จ่ายปันผล มีอะไรบ้างนั้น เรามาหาคำตอบกัน

กองทุนรวมแบบจ่ายปันผล

กองทุนรวมแบบจ่ายปันผล หากจะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือช่วงเวลาที่เราลงทุนจะมีการจ่ายเงินปันผลออกมาให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน โดยจะมีการระบุว่าภายใน 1 ปี จะมีการจ่ายเงินปันผลกี่ครั้ง ซึ่งผลตอบแทนก็ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนนั้น ๆ

ด้านข้อดี-ข้อเสียของกองทุนรวมแบบจ่ายปันผลนั้น หากมองมุมของการได้รับเมื่อลงทุนไปแล้วก็อยากจะได้อะไรกลับมาบ้าง กองทุนรวมแบบจ่ายปันผลก็จะเป็นคำตอบ หากผลการดำเนินงานเป็นไปด้วยดี อาจจะมีการจ่ายผลตอบแทน 2-3 ครั้งใน 1 ปี และเป็นแหล่งของการสร้างกระแสเงินสดให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน โดยเงินที่ได้อาจจะนำไปลงทุนต่อ หรือใช้จ่ายในเรื่องอื่น ๆ ได้ เรียกว่าเป็นช่องทาง Passive income อีกรูปแบบหนึ่ง

 

กองทุนรวม

กองทุนรวม

 

แต่อีกมุมหนึ่งการจ่ายปันผลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% และจะทำให้มูลค่าของหน่วยลงทุนไม่เพิ่มขึ้นจากเดิม เพราะต้องจ่ายปันผลออกมา รวมถึงอาจจะเสียโอกาสที่จะสร้างมูลค่าให้ได้ผลตอบแทนมากขึ้นกว่าเดิม

กองทุนรวมไม่ปันผล

กองทุนรวมแบบไม่จ่ายปันผล เมื่อเราลงทุนจะไม่ได้ผลตอบแทนอะไร จนกว่าจะขายกองทุนนั้นออกไป เรียกได้ว่าจะได้ผลตอบแทนครั้งเดียวเท่านั้น แต่ผลตอบแทนครั้งเดียวก็อาจมีสูงกว่า เพราะกองทุนไม่ต้องจ่ายปันผล ทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถนำเงินไปลงทุนได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

นอกจากนี้ เมื่อถึงเวลาขายกองทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนก็จะได้รับผลกำไรแบบเต็ม ๆ ไม่ต้องไปเสียภาษีแต่อย่างใด แต่หากคนที่อยากมีกระแสเงินสดระหว่างการลงทุนก็อาจจะไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ และกองทุนในรูปแบบนี้จะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ผลลัพธ์เป็นไปได้ทั้ง “กำไร” และ “ขาดทุน”

บอกได้ว่ากองทุนรวมแบบไม่จ่ายปันผลเหมาะกับการลงทุนระยะยาว 5-10 ปี เพื่อรอรับเงินจากการลงทุนทีเดียว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง


Mostview

“Butterbear” น้องหมีเนย เมื่อมาสคอตเป็นอะไรมากกว่าที่คุณคิด

“มาสคอต” ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในสร้างการรับรู้ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักของคนมากขึ้น หลายแบรนด์จึงใช้วิธีนี้สร้างคาแรคเตอร์ให้กับมาสคอตขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่จดจำ

ถอดบทเรียน Robinhood ตั้งเริ่มทำธุรกิจขาดทุนทุกปี รวม 5.5 พันล้านบาท

“Robinhood” อีกหนึ่งแอปพลิเคชันส่งอาหารเดลิเวอรี ภายใต้การบริหารของเอสซีบี เอกซ์ (SCBX) ที่ต้องโบกมือลา โดยจะหยุดให้บริการมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.2567 เป็นต้นไป โดยบริษัทได้บอกว่าพวกเขาทำภารกิจลุล่วงแล้วกับการช่วยเหลือร้านค้า ไรเดอร์ และคนตัวเล็ก

ลาออกจากงาน 1 ปี เพื่อหาความสุขที่แท้จริง สุดท้ายได้แนวทางใช้ชีวิตไปจนเกษียณ

เชื่อว่าทุกคนอยากมีชีวิตตามสิ่งที่คิดไว้ แต่แน่นอนว่าด้วยภาระหน้าที่ต่าง ๆ ทำให้เราไม่สามารถเป็นไปอย่างที่หวัง หรือไปถึงเป้าหมายตรงนั้นได้ช้าลง

Ben & Jerry’s ไอศกรีมที่ชูจุดเด่นปัญหาสิ่งแวดล้อมมาเป็นจุดขาย

Ben & Jerry’s แบรนด์ไอศกรีมยอดนิยมในสหรัฐฯสหรัฐฯ ที่มีอายุก่อตั้งธุรกิจมามากกว่า 40 ปี และสร้างรายได้ปีละหลายร้อยล้าน แต่เรื่องที่ทำให้แบรนด์ได้รับความชื่นชมคือการชูประเด็นปัญหาสังคม-สิ่งแวดล้อม จนได้รับการขนานนามว่าเป็นแบรนด์ที่มีความยั่งยืน

SmartSME Line