ณ งานเสวนาบนเวทีกลาง ภายในงาน Smart SME Expo 2024 ระหว่าง 4-7 กรกฎาคม 2567 ฮอลล์ 7-8 เมืองทองธานี ได้มีการพูดคุยในหัวข้อ “ติวเข้ม SMEs เปิดประตูสู่เวทีการค้าโลก” โดยคุณอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สรุปได้ดังนี้
ด้วยปัจจุบันคนไทยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 40 ปี และคาดว่าในอนาคตประชากรไทยจะลดลงกว่าครึ่ง ต่างจากประเทศอินโดนีเชีย ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมและมีประชากรสูงที่สุดในอาเซียน โดยเฉลี่ยเป็นกลุ่มวัยรุ่น มีสตาร์ทอัพยูนิคอนกว่า 11 บริษัท นอกจากนี้ประเทศฟิลิปปินส์และเวียดนามยังเป็นประเทศที่ประชากรเฉลี่ยเป็นกลุ่มวัยรุ่นและประชากรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งมีอัตราการส่งออกสูงกว่าไทย เหล่านี้จึงเป็นเหตุผลที่ SME ไทยควรปรับตัวหาตลาดส่งออกใหม่ ๆ ซึ่งก่อนผู้ประกอบการจะก้าวสู่เวทีการค้าโลก เราต้องรู้ก่อนว่าเรามีความพร้อมหรือไม่ ก่อนส่งออกไปประเทศอื่น ๆ โดยประกอบด้วยความพร้อมของสินค้า การเลือกตลาดส่งออกที่ใช่ และการศึกษากฏระเบียบข้อบังคับของประเทศส่งออกปลายทาง
ยกตัวอย่างตลาดสหรัฐตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย แต่สินค้าส่งออกหลักของไทยกลับไม่ใช่สินค้า SME ทั้งยังมีข้อจำกัดและความเข้มงวดมากมาย แต่เมือมองถึงตลาดอาเซียน กลับเป็นตลาดส่งออกที่มีแนวโน้มสูงขึ้น หรือคิดเป็น 24% ของการส่งออกทั้งหมด ซึ่งเป็นตลาดใกล้บ้านที่ SME ควรเข้าไปมองหาโอกาสส่งออก โดยเฉพาะตลาดอาเซียนกลุ่ม CLML ที่มีภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน บวกกับส่วนใหญ่จะเป็น ฐานการผลิตสินค้ากลุ่มสิ่งทอ รองเท้าเพียงเท่านั้น ทำให้กลุ่มสินค้าอื่น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร-เครื่องดื่มของชาวไทยมีโอกาสเข้าไปทำตลาด
ถัดมาคือเรื่องของเราจะนำสินค้าอะไรเข้าไปทำตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องรู้จุดแข็งของสินค้า และเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าประเทศปลายทางที่ต้องการส่งออก เช่น การปรับตัวของธุรกิจกาแฟเพื่อสุขภาพและรูปร่างดีที่สามารถทำตลาดได้ดีในประเทศอินเดีย เนื่องจากประชาชนประสบปัญหาโรคอ้วนจำนวนมาก รวมถึงการใช้ตรารับรองสินค้า Halal เมื่อต้องการส่งออกไปประเทศมุสลิม การปรับตัวเรื่องไซซ์แพกเกจจิ้งให้เหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ศึกษากฎหมายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการใช้ FTA ซึ่งเป็นผลประโยชน์สำคัญที่จะช่วยให้ SME ไปต่อได้ง่ายขึ้น เราจึงต้องศึกษา FTA ทั้งด้านการนำเข้าและส่งออก
ผู้สนใจความรู้และการต่อยอดธุรกิจดี ๆ แบบนี้ มาหาโอกาสได้ที่ งาน Smart SME Expo 2024 ระหว่าง 4-7 กรกฎาคม 2567 ฮอลล์ 7-8 เมืองทองธานี