ณ งานเสวนาบนเวทีกลาง ภายในงาน Smart SME Expo 2024 ระหว่าง 4-7 กรกฎาคม 2567 ฮอลล์ 7-8 เมืองทองธานี ได้มีการพูดคุยในหัวข้อ “Greenomic ขับเคลื่อนประเทศไทย สู่ความยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจสีเขียว” โดย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) สรุปได้ดังนี้
จากสภาวะอุณหภูมิทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยมาจากโลกเดือดทำให้เกิดโลกร้อนเห็นได้จากหมีขั้วโลกเสี่ยงสูญพันธุ์จากน้ำแข็งขั้วโลกละลาย, ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงทำให้อากาศแปรปรวน จนเกิดน้ำท่วมในมหานครดูไบ หลุมอากาศขณะนั่งบนเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นตลอดระยะทาง 1.5 กิโลเมตร และปัญหามลพิษทำให้ประชากรทั่วโลกเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศ โดยทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ทั่วโลก อย่างประเทศไทยเองก็มีอัตราการปล่อยคาร์บอนสูงถึง 3.78 ตันต่อปี ซึ่งหากต้องการให้ปริมาณคาร์บอนจำนวนนี้หายไปก็ต้องใช้พื้นที่ป่าจำนวนมาก ด้วยปัญหาที่ทั่วโลกกำลังเผชิญเหล่านี้ จึงทำให้ผู้คนมากมายหันมาซื้อ-สินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งนับเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทยที่สามารถปรับธุรกิจเข้าสู่ Green เพื่อเติบโตไปพร้อมกับเทรนด์ดังกล่าว
การทำธุรกิจวันนี้ Go Green ไม่ใช่ทางเลือก แต่ถือเป็นทางรอด
หากบอกว่าการทำธุรกิจวันนี้ Go Green ไม่ใช่ทางเลือก แต่ถือเป็นทางรอดก็คงไม่แปลก เนื่องจากการตระหนักรู้ถึงระเบียบของโลกใหม่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจยุคนี้และอนาคตอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ภาคธุรกิจไทยควรเร่ง Go Green อาทิ อัตราหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงกว่า 92%, ภาวะการแก่ก่อนรวย, การใกล้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยในไม่กี่ปีนี้ และหากมองถึง SME ในประเทศไทยในปัจจุบันที่อยู่ในระบบกว่า 3.17 ล้านราย ยังไม่นับรวมผู้ประกอบการไม่อยู่ในระบบอีกมากกว่า 2 ล้านราย ซึ่งเป็นการค้าขายภายในประเทศที่กระจุกตัวอยู่จำนวนมาก ในขณะที่ผู้ส่งออกไทยมีเพียง 25,000 รายเท่านั้น (ไม่ถึง 1% ของผู้ประกอบการไทยทั้งหมด) ด้วยเหตุนี้ SME ไทยจึงจำเป็นต้องมองหาตลาดส่งออกใหม่ ๆ พร้อมทั้งปรับตัวเข้าสู่การทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากจะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษจากการออกมาตรการทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลกที่มีมากถึง 18,000 มาตรการ
จาก Green สู่ Blue แนวทางการให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมที่ต้องเดินเคียงกันไป
แม้จะบอกว่าการขับเคลื่อนธุรกิจนี้ควรต้องไป Green แต่นอกจากการ Go Green แล้ว ปัจจุบันทั่วโลกยังมองถึงการ Go Blue ด้วย เพื่อตระหนักถึงสภาพแวดล้อมทางน้ำ เนื่องจากกว่า 50-80% ของออกซิเจนโลกมาจากมหาสมุทร, ราว 3,000 ล้านคนจากทั่วโลก (เกือบ 40% ของประชากรโลก) ต่างพึ่งพาอาหารทะเลและรายได้จากทะเล กว่า 80% ของปริมาณการค้าโลกมาจากการขนส่งทางทะเล ซึ่งมูลค่าเศรษฐกิจทางทะเลสูงถึง 2.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ใกล้เคียงกับ GDP ของฝรั่งเศสที่เป็นอันดับ 7 ของโลก) นั่นจึงทำให้ทั้งการปรับธุรกิจสู่ Green และ Blue จำเป็นต้องเดินเคียงกันไปโดยไม่ทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ปรับ 2P ให้เป็น 4P สร้างธุรกิจสีเขียวได้มากกว่าที่คิด
เมื่อมองถึงแนวทางการปรับตัวของผู้ประกอบการ การก้าวเข้าสู่ธุรกิจสีเขียว หรือการบอกเล่าเรื่องราวการรักษ์โลกในแง่มุมต่าง ๆ สามารถยกระดับธุรกิจได้หลายแง่มุม เห็นได้จากตัวอย่างดังนี้
Process > การปรับเปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรรูปแบบ Automation และเปลี่ยนไปใช้ พลังงานสะอาด เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ หรือแม้แต่การใช้ไฮโดรเจนแทนพลังงานฟอสซิล
Product > ปรับความรักษ์โลกเข้ากับสินเค้าของเรา พร้อมตอบโจทย์คน 5 เจนเนอเรชั่น เช่น ปรับใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในกลุ่มสินค้าไอทีเพื่อตอบโจทย์คน Gen Z, ปรับใช้อาหารออแกนิกส์เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนสูงวัย, ปรับเปลี่ยนของใช้จากธรรมชาติภายในโรงแรมเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยว, ปรับใช้เครื่องประดับจากวัสดุรีไซเคิลเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้หญิง หรือแม้แต่การปรับเปลี่ยนแพกเกจจิ้งเป็นวัสดุรักษ์โลก
Price > ยกระดับธุรกิจจากการตั้งราคาขายได้สูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคกว่า 70% ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อสินค้า Green โดยเฉพาะลูกค้า Gen Y
Profit > ได้กำไรมากขึ้น เพราะธุรกิจ Green สามารถทำกำไรปีละกว่า 9.1% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 2.5 เท่า
Place > เข้าถึงตลาดที่กว้างกว่า เนื่องจากการปรับตัวสู่ความยั่งยืนมีโอกาสเข้า Global Green Supply Chain ของผู้ผลิตรายใหญ่ นอกจากนี้ยังช่วยขจัดอุปสรรคและเพิ่มโอกาสการค้าในตลาดกลุ่ม EU และสหรัฐ
Promotion: มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง เห็นได้จากการออกแคมเปญสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษในหลายประเทศ เช่น การปล่อยกู้ 0% ให้กับธุรกิจ Green ในญี่ปุ่น ขณะที่ EXIM BANK เองก็พร้อมขับเคลื่อนเพื่อความยั่งยืน ทั้งทางด้านการออกแบผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมปรับปรุงกระบวนการทำงานของ EXIM BANK เพื่อตอบโจทย์สังคมคาร์บอนต่ำ
ผู้สนใจความรู้และการต่อยอดธุรกิจดี ๆ แบบนี้ มาหาโอกาสได้ที่ งาน Smart SME Expo 2024 ระหว่าง 4-7 กรกฎาคม 2567 ฮอลล์ 7-8 เมืองทองธานี