เปิดรายละเอียด “คาเฟ่เนสกาแฟ-WeDrink-กาแฟพันธุ์ไทย” อยากเปิดร้านต้องมีเงินทุนเท่าไหร่

หากใครกำลังมองหาธุรกิจในยุคนี้ หนึ่งในเหตุผลที่ยกมาประกอบการพิจารณา คือความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่เรานำเงินไปลงทุน คือลงทุนไปแล้วจะไม่เจ๊งนั่นเอง เพราะหากแบรนด์มีความแข็งแรง เป็นที่รับรู้ของผู้คน เห็นโลโก้ พูดออกมาเลยว่าคือแบรนด์อะไร

ปัจจุบันธุรกิจที่ผู้สนใจอยากลงทุนคงหนีไม่พ้น สินค้าหรือบริการที่อยู่ในปัจจัย 4 เป็นของต้องกิน ต้องใช้ เช่น อาหาร, เครื่องดื่ม เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน เหล่านี้การันตีได้ว่าจะมีคนซื้อสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยที่ชื่นชอบอาหาร-เครื่องดื่มนี้

Smartsme จะขอแนะนำธุรกิจที่ใครหลายคนรู้จัก คุ้นหู คุ้นตากันเป็นอย่างดี เห็นตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยม 3 แบรนด์ด้วยกัน

เนสกาแฟ

โมเดลคาเฟ่แบรนด์เนสกาแฟ ภายใต้การดูแลของเนสท์เล่ สำหรับโมเดลทำมาร่วม 4 ปี ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 65 สาขาทั่วประเทศไทย และแบรนด์ยังคงเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจตอบโจทย์คนที่อยากเปิดคาเฟ่ แต่อาจจะยังไม่มีความรู้ว่าการทำคาเฟ่ต้องเริ่มอย่างไร

ดังนั้น แบรนด์รับจบให้ เริ่มตั้งแต่การดูพื้นที่หน้าร้านไปจนถึงการเปิดร้าน และการดูแลหลังการขาย โดยว่าที่ผู้ประกอบการที่อยากจะเปิดคาเฟ่เนสกาแฟต้องมีโลเคชัน หรือพื้นที่มานำเสนอ ซึ่งทางแบรนด์จะเข้าไปสำรวจ วิเคราะห์พื้นที่ว่ามีคุณภาพ ศักยภาพที่จะเปิดร้านได้หรือไม่ จะทำให้เกิดยอดขายได้หรือเปล่า นอกจากนี้ ในเรื่องของพนักงานที่ผู้ลงทุนจะต้องดูแลเอง ที่เหลือแบรนด์จะจัดการให้หมดเลย

ด้านจุดแข็ง ข้อดีหากเปิดคาเฟ่เนสกาแฟแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร เรื่องนี้ต้องบอกว่าชื่อ “เนสกาแฟ” พูดไปใคร ๆ ก็รู้จักอยู่แล้ว และแบรนด์ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟ ส่วนเรื่องการทำธุรกิจ แน่นอนว่ากำไรเป็นเรื่องสำคัญ โดยแบรนด์จะไม่เก็บค่ามาร์จิ้น ไม่มีการเก็บ GP ส่วนแบ่งจากผู้ประกอบการ ดังนั้น รายได้จากการขายกาแฟ เครื่องดื่มหน้าร้านเข้ากระเป๋าผู้ประกอบการ 100% เหมือนกับว่าได้เป็นเจ้าของธุรกิจจริงๆ แถมยังมีคนคอยแนะนำตลอดทางการดำเนินกิจการ

เช่นเดียวกับเรื่องคุณภาพ และมาตรฐานจะมีทีมบาริสต้าเทรนเนอร์ช่วยสอนในเรื่องของความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกาแฟ, ขั้นตอนการทำกาแฟ, การบริการหน้าร้านต้องทำอย่างไร

สำหรับแพ็คเกจการลงทุน แบ่งเป็น 3 แบบ

1.THE COUNTE พื้นที่ตั้งแต่ 30 ตร.ม. -40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.6 ล้านบาท เหมาะกับพื้นที่ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และออฟฟิศ

2.FIT IN SPACE พื้นที่ตั้งแต่ 60 ตร.ม. ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีบ้าน อาคารพาณิชย์ หรือเช่าพื้นที่อาคารเพื่อเปิดธุรกิจร้านกาแฟ

3.THE STAND ALONE พื้นที่ตั้งแต่ 60 ตร.ม. ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 4.2 ล้านบาท เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีที่ดินเปล่า

ทั้งนี้ ราคานี้ไม่รวมค่า Management fee 165,000 บาท ตลอดระยะเวลา 3 ปี

WeDrink

แบรนด์ในเครือภายใต้บริษัท รุนเซียง แคทเทอริ่ง จำกัด ให้บริการด้านไอศกรีมสด ชา กาแฟ น้ำผลไม้เป็นหลัก โดยได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตัว ซึ่งจุดเด่นของแบรนด์อยู่ที่ราคาที่เข้าถึงง่าย เช่น ไอศกรีมโคนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 15 บาท, เครื่องดื่มอยู่ที่ 20-30 บาท รวมถึงรสชาติ และความหลากหลายของเมนูที่มีมากกว่าแบรนด์อื่น ๆ

WeDrink มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น และใช้รูปแบบการบริหารที่ทุกคนจับต้องได้ เพื่อจำหน่ายไอศกรีม และเครื่องดื่มคุณภาพสูงในราคาต่ำให้กับผู้บริโภค

สำหรับค่าแฟรนไชส์จะอยู่ที่ประมาณ 850,000 บาท โดยมีกำไรต่อแก้วอยู่ที่ 60% ต้นทุนต่อเดือนจะอยู่ที่ 40% ซึ่งระยะเวลาคืนทุนอยู่ที่ 8 เดือนก็สามารถคืนทุนแล้ว (ขึ้นอยู่กับทำเล) ที่มีทีมงานของบริษัทสำรวจก่อนเปิดร้าน อีกทั้ง ขนาดพื้นที่ที่แนะนำจะอยู่ที่ 20 ตร.ม.แค่นี้ก็เพียงพอต่อการวางอุปกรณ์ และจัดเก็บวัตถุดิบ

หากรวมค่ารีโนเวท ค่าเช่าร้าน จะใช้งบลงทุนประมาณ 1 ล้านกว่าบาท

กาแฟพันธุ์ไทย

พันธุ์ไทยโดดเด่นด้วยเมนูเครื่องดื่มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์รสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร ส่วนใหญ่ร้านจะเปิดในสถานีบริการน้ำมัน โดยนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา แบรนด์เริ่มขยายเป็นแฟรนไชส์ซี ปีที่แล้วมีสาขา 887 สาขา ซึ่งแบรนด์ตั้งเป้าที่จะขยายให้ได้ 1,300 สาขา ภายในปี 2024 ทั้งในรูปแบบบริษัทเปิดเอง และรูปแบบแฟรนไชส์

จุดแข็งของกาแฟพันธุ์ไทยมี 3 ด้านด้วยกัน

1.อัตราการเติบโตของสาขาที่ลูกค้าเห็นได้ชัดเจน

2.ฐานลูกค้า ปัจจุบันฐานลูกค้าที่เป็นบัตรพรีเมียร์ การ์ด อยู่ที่ประมาณ 23 ล้าน ส่วนลูกค้าที่เป็นบัตรแมกซ์ การ์ด พลัส อยู่ที่ประมาณ 1 ล้าน

3.สินค้าที่มีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนคู่แข่ง เช่น ลอดช่อง, มะม่วงเบา ที่นำมาปรับใช้กับเครื่องดื่ม โดย 1 ปี จะมีสินค้าแปลกใหม่เข้ามา 4 ครั้ง

สำหรับโมเดลการเปิดร้านกาแฟพันธุ์ไทย จะแบ่งเป็น 3 รูปแบบ

1.Stand Alone ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 60 ตร.ม. ลงทุนเริ่มต้น 3.6 ล้านบาท

2.Built-in ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 40 ตร.ม. ลงทุนเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท

3.Kiosk ขนาดพื้นที่ เริ่มต้น 15 ตร.ม. ลงทุนเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท