ทำธุรกิจอย่างไรไม่ให้ล้มทั้งยืน : ดร.พนม ปีย์เจริญ


มีเรื่องเล่ากันว่า “ชายคนหนึ่งยืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแล้วมองไปยังฝั่งตรงข้ามแม่น้ำไกลลิบๆ พลันก็เห็นคนเดินเอาป้ายมาปักริมน้ำ แต่ด้วยว่าป้ายไม่ใหญ่นักและฝั่งแม่น้ำก็ไกลกันมาก ทำให้เขาอ่านตัวหนังสือไม่ชัด ไม่รู้ว่าเขียนว่ากระไร ยืนมองอยู่เป็นนานสองนานก็ไม่รู้ว่าเขาเขียนอะไรไว้ที่ป้าย

 

วันรุ่งขึ้นเขาก็มายืนเพ่งมองป้ายนั้นอีก แต่ก็ยังอ่านไมได้อยู่ดี ด้วยความอยากรู้ เขาเริ่มชวนเพื่อนๆว่า เรามาว่ายเกาะขอนไม้ไปแม่น้ำฝั่งโน้นกันไหม ด้วยอยากรู้ว่าเขาเขียนอะไรไว้ที่ป้ายนั้น จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครว่ายข้ามไปกับเขา เขาจึงตัดสินใจเกาะขอนไม้ว่ายข้ามแม่น้ำไปยังฝั่งตรงข้ามคนเดียว ขณะที่เขาว่ายข้ามมาใกล้จะถึงฝั่งที่มีป้ายเขียนไว้ เขาก็ถึงกับขนหัวลุกเพราะป้ายนั้นเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ‘ห้ามลงเล่นน้ำจระเข้ชุม’ เขารีบตาลีตาเหลือกว่ายขึ้นไปบนฝั่งด้วยความกลัวสุดขีดทันทีที่อ่านป้ายนั้นจบ”

 

คำถามก็คือ ถ้าเขาเห็นป้ายนั้นและอ่านออกอย่างชัดเจนตั้งแต่อยู่ฝั่งโน้น เขาจะว่ายข้ามฝั่งแม่น้ำมาไหม คำตอบก็คือ “ไม่” แน่นอน การเริ่มต้นทำธุรกิจของหลายๆ คนก็เหมือนกัน ถ้ารู้ว่าจะเจออะไรบ้างอย่างชัดเจน ก็คงไม่ลงมือทำธุรกิจนั้นแน่นอน หรืออาจจะหาวิธีอื่นที่ปลอดภัยมากกว่านี้แต่นี่เป็นเพราะไม่เห็นคำเตือนของป้ายที่เขียนไว้ และด้วยความอยากรู้จึงพยายามว่ายน้ำข้ามไปดู

 

เจ้าของธุรกิจหลายคนจึงเจอสภาพจำยอมที่ต้องดำเนินธุรกิจนั้นต่อไป อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็เพราะแบบนี้ คือรู้ไม่หมด รู้ไม่จริงและไม่รู้ว่าจะเจออะไรจึงลงมือทำไปก่อน ถ้ารู้ว่าจะเจอแบบนี้คงไม่ทำตั้งแต่แรก ดังนั้นจึงมีนักธุรกิจที่เป็นเจ้าของกิจการหลายคนที่เริ่มทำธุรกิจเพราะ

– เห็นเขาทำแล้วดี เลยลองทำดูบ้าง

– เห็นเขาทำแล้วรวยเลยอยากรวยบ้าง

– เห็นกระแสมันดี เลยทำตามกระแสไปกับเขาด้วย

 

แต่พอทำไปแล้วเดินหน้าก็เหนื่อย ถอยก็ถอยไมได้แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ…ทำอย่างนี้สิครับ! ทำอย่างเจ้าของธุรกิจหลายๆคนที่ประสบความสำเร็จที่ผมมีโอกาสพูดคุยด้วย เขาแนะนำว่าหากจะยืนให้ได้ในธุรกิจที่ทำอยู่และประสบความสำเร็จ ต้องทำอย่างนี้ครับ

 

  1. ถึงลูก ถึงคน ในธุรกิจ

อย่าทำแบบกล้าๆกลัวๆ หรือดูแลธุรกิจตัวเองแบบอยู่ห่างๆให้ลูกน้องทำกันไป ตัดสินใจกันเอง แก้ปัญหากันเอง การทำธุรกิจแบบนี้มักไปไม่รอด เพราะเจ้าของจะไม่ค่อยรู้อะไรในธุรกิจตัวเอง เจ้าของธุรกิจไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไร เจ้าของต้องดูแลธุรกิจตัวเองแบบถึงลูกถึงคน ต้องเข้าไปดูแลทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด ทั้งฝ่ายผลิต ฝ่ายบัญชี ฝ่ายการเงิน ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบุคคล ฝ่ายธุรการ ฝ่ายจัดซื้อ ฯลฯ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของธุรกิจหรือในช่วงเวลาที่เขาต้องการความมั่นใจในการตัดสินใจ

ต้องเข้าไปดูแลและเรียนรู้ทั้งคนและงานอย่างใกล้ชิด ยิ่งถ้าสามารถรู้ถึงขนาดว่าถ้าพนักงานในส่วนที่สำคัญๆลาออกกระทันหันเราต้องเข้าไปแทนที่ชั่วคราวได้ จนกว่าจะหาคนมาแทนได้ยิ่งดี โดยเฉพาะองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางต้องทำให้ได้ถึงขนาดนี้เลย ไม่เช่นนั้นองค์กรเราจะมีปัญหามาก เพราะถ้าจู่ๆมีหัวหน้าแผนกที่เป็นหัวใจของบริษัทลาออกและไม่มีใครแทนได้ เราต้องลงไปดูแลแทนได้และพยายามปั้นคนใหม่ขึ้นมาทำแทนหรือไม่ก็ต้องหาคนนอกที่มีฝีมือมาทำแทนคนที่ลาออกไปเราจึงค่อยถอยออกมา

แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น การทำงานแบบถึงลูกถึงคนของเราต้องเข้าถึงใจของคนในองค์กรเราด้วย เพราะถ้าเข้าไม่ถึงเราก็ไม่รู้ความต้องการ ความรู้สึกนึกคิดของพนักงานของเรา ก็จะทำให้เราไม่รู้กาลล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งบางเรื่องอาจทำให้สายเกินไปกับการแก้ปัญหา

 

  1. กัดไม่ปล่อย

การทำธุรกิจในช่วงแรกๆ หรือช่วงที่มีภาวะการแข่งขันสูง เจ้าของธุรกิจต้องไม่วางใจให้คนอื่นทำโดยลำพัง โดยที่ยังไม่รู้ฝีไม้ลายมือของเพื่อนร่วมงานหรือคนที่รับผิดชอบงานอย่างลึกซึ้งพอ เราต้องกัดไม่ปล่อยในเกือบทุกเรื่องที่เป็นหัวใจของธุรกิจ แต่ต้องทำอย่างแนบเนียนและมีศิลปะในการบริหารจัดการ มีปัญหาอะไรต้องรีบแก้ไขก่อนล่วงหน้า อย่าปล่อยให้ปัญหาบานปลายจนยากแก่การแก้ไขและสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจของเรา

อย่าลืมว่าเงินที่ลงทุนไปทุกบาททุกสตางค์มีค่า อย่าให้สูญเปล่าไปง่ายๆ เพราะมันคือการลงทุน ฉะนั้นลงทุนไปแล้วต้องได้ผลตอบแทนกลับมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เราจึงต้องไม่ให้มันสูญเปล่าไปเฉยๆ เพราะฉนั้นอย่ายอมปล่อยให้โอกาสดีๆผ่านไปง่ายๆ เมื่อได้โอกาสดีนั้นผ่านเข้ามาในชีวิต

 

  1. ทันสถานการณ์

การรู้ในธุรกิจของตัวเองอย่างลึกซึ้งและรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงแข่งขันภายนอกเป็นอย่างไรจะทำให้เราสามารถปรับตัวเองได้ทันเวลาก่อนที่จะสายเกินไปต้องรู้ว่าใครคือคู่แข่งทางตรงของเราที่มีสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้ากลุ่มเดียวกับเรา และธุรกิจที่เป็นคู่แข่งทางอ้อมคือเป็นคู่แข่งที่มีสินค้าและผลิตภัณฑ์คนละกลุ่มกับเรา แต่เป็นสินค้าที่ทดแทนกับสินค้าของเราได้ สิ่งต่างๆเหล่านี้ต้องรู้ให้ทันสถานการณ์เสมอ

ในขณะเดียวกันเราต้องรู้ว่าลูกค้าของเรามีพฤติกรรมการบริโภคไปในทิศทางใดกับสินค้าและบริการในยุคการเปลี่ยนแปลง เพื่อที่เราจะได้พัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้

ความจริงแล้วเจ้าของธุรกิจต้องรู้แม้กระทั่งนวัตกรรมใหม่ๆที่จะนำเข้ามาใช้สนับสนุนธุรกิจของเราในทุกๆด้าน ก็จะยิ่งดีไม่ใช่น้อย เพราะนวัตกรรมบางอย่างนอกจากจะนำเข้ามาใช้ทดแทนแรงงานฝีมือที่หายาก ดูแลยากขึ้นทุกวันแล้ว ยังสามารถควบคุมคุณภาพความแม่นยำ ตลอดจนมีความรวดเร็วได้ดีกว่าอีกด้วย

 

  1. คิดทำสิ่งใหม่ ที่แตกต่าง

การทำธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น เราอาจต้องรักษาความเป็นต้นตำรับไว้เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ด้านความเป็นตำนาน ความดั้งเดิม ความเป็นผู้ริเริ่มเอาไว้ แต่นั่นมิได้หมายถึงว่าเราจะคิดทำอะไรใหม่ไม่ได้ ความเป็นดั้งเดิมเราก็เก็บเอาไว้เป็นเอกลักษณ์ของธุรกิจ แต่การสร้างสินค้าเพื่อกลุ่มใหม่ๆด้วยความแตกต่างจ่ากคู่แข่งคือสิ่งที่เราต้องคิดและต้องทำ เพราะคนกลุ่มเก่าอาจจะค่อยๆล้มหายตายจากหรือลดน้อยลงไป เราต้องหากลุ่มใหม่มาทดแทน ด้วยการสร้างสินค้าใหม่ที่แปลก แตกต่างและน่าสนใจ เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาเพิ่มยอดการขายให้กับธุรกิจของเรา

เพราะฉะนั้นองค์กรเราจึงหยุดพัฒนาไม่ได้ เราต้องพัฒนา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงธุรกิจของเราตลอดเวลา เราต้องอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น แล้วรีบปรับตัวให้ทัน มิฉะนั้นเราจะตกขบวนและกลายเป็นธุรกิจที่ล้าหลังไปในที่สุด

 

  1. ไม่พร้อมอย่าขยาย

มีธุรกิจหลายธุรกิจที่ขยายกิจการทั้งที่ตนยังไม่พร้อม เหมือนร้านอาหารที่สาขาแรกยังเอาไม่ค่อยอยู่ แต่รีบขยาย สาขา 2 สาขา 3 หากเป็นแบบนี้แล้วนอกจาก สาขา 2 สาขา 3 จะเอาไม่รอด จะทำเอาสาขาแรกล้มครืนไปด้วย

เพราะฉะนั้นทำธุรกิจต้องให้มีความแน่นอน มั่นคงในธุรกิจที่ทำ เสียก่อนจึงค่อยๆขยับขยายออกไป เพราะการขยับขยายแต่ละอย่างมันคือต้นทุนและความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ที่เราจะต้องมีระบบการบริหารจัดการดูแลให้ทั่วถึง พร้อมที่จะรับกับปัญหาใหม่ๆที่เกิดขึ้นได้

ทำที่มีอยู่ให้แข็งแรงมั่นคง ยืนได้อย่างมั่นใจเสียก่อนจึงค่อยขยับขยาย ต้องดูความพร้อม สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ความต้องการของลูกค้าที่มีมากพอ ฯลฯ เมื่อทุกอย่างพร้อมหรือเกือบพร้อมจึงค่อยตัดสินใจขยายธุรกิจของเราออกไป

นี่เป็นบางส่วนของกูรูที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ ได้ให้แนวทางไว้ ในขณะที่เราต้องเจอกับภาระจำยอมในการทำธุรกิจ ชนิดที่หันหลังกลับมาไม่ได้เราต้องยืนขึ้นและค่อยๆเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจทีละก้าวในธุรกิจในมือเรา