แบงก์เข้มปล่อยสินเชื่อดันยอดกู้บ้านไม่ผ่านพุ่ง


 

ไทยพาณิชย์ หวั่น เศรษฐกิจชะลอ หนี้ครัวเรือนสูง ดันยอดปฏิเสธสินเชื่อกู้บ้านพุ่ง สวนทางเศรษฐกิจซบ พร้อมจับตาเอ็นพีแอลใกล้ชิด

นางพิกุล ศรีมหันต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และหนี้ครัวเรือนที่สูง ทำให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อในภาพรวมเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 20% เป็น 23% ขณะที่รายย่อย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ประกอบอาชีพอิสระเพิ่มขึ้นจาก 19% เป็น 34% โดยมาจากการขอกู้ซื้อคอนโดมิเนียม 5% บ้านแนวราบ 10% ด้านพนักงานที่มีเงินเดือนประจำ หรือมนุษย์เงินเดือนอัตราปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 17% อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า สถาบันการเงินยังจับตาเอ็นพีแอลอย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ไม่กังวล ในส่วนของธนาคาร เอ็นพีแอลไตรมาส 2 อยู่ที่ 2.24% เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากไตรมาสแรกที่ 2.17%

สำหรับยอดปล่อยสินเชื่อช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา มี 57,000ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีตั้งไว้ 120,000 ล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้าง 570 ,000 ล้านบาท เป็นกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี 50% และมนุษย์เงินเดือน50% และกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเฉลี่ยที่ราคา 2.4 ล้านบาท

“ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการชำระหนี้เกินลดลง จากเดิมชำระเดือนละ 30,000 บาท มาอยู่ที่ 15,000 บาท เพื่อเอาเงินไปใช้จ่ายในส่วนอื่นแทน และเวลาการผ่อนชำระนานขึ้น จากเดิม 17 ปี แต่ปัจจุบันมากกว่า 17 ปี แต่ทั้งนี้โดยภาพรวมยังอยู่ในสัญญา 30 ปี”

นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า ภาพรวมสินเชื่อที่อยู่อาศัยปีนี้ประเมินว่าจะขยายตัวได้ 5-10% หรือ 640,000 ล้านบาท แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะไม่เติบโตมากนัก โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้างมากกว่า 3 ล้านล้านบาท ซึ่งปัจจัยที่ทำให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยยังขยายตัวได้ คือดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำ ราคาที่อยู่อาศัยยังไม่ปรับเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินยังแข่งขันที่จะปล่อยสินเชื่ออยู่ แต่ยังคงเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น ทำให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อของ สถาบันการเงินเพิ่มขึ้น แต่ถือเป็นเรื่องดี เพราะดีกว่าที่จะให้กู้แต่กลายเป็นหนี้เสีย เพราะผ่อนชำระไม่ได้ ส่วนของเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ที่ 2% ถือว่าอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ซึ่งสถาบันการเงินยังมีความแข็งแกร่ง และได้ตั้งสำรองไว้แล้ว

ที่มา : ธนาคารไทยพาณิชย์