รู้ทันกฎหมายหลักประกันธุรกิจ


คุณแอน พลอยส่องแสง กรรมการฝ่ายต่างประเทศ สภาทนายความ กล่าวว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ปัจจุบันกําหนดให้มีกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ 3 ประเภท ได้แก่
1.ค้ำประกัน (ประกันด้วยบุคคล)
2.จํานอง (ประกันด้วยอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์บางประเภท)
3.จํานํา (ประกันด้วยสังหาริมทรัพย์)
โดยมีข้อจํากัด คือ ทรัพย์สินที่สามารถนํามาจํานองได้จํากัดเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์พิเศษบางประเภทเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินที่สามารถนํามาจํานําได้คือ สังหาริมทรัพย์แต่ต้อง มีการส่งมอบทรัพย์สินที่จํานําให้แก่เจ้าหนี้ผู้รับจํานํายึดถือไว้แต่สัญญาหลักประกันทางธุรกิจสามารถนํา ทรัพย์สินทุกชนิดมาเป็นหลักประกันได้ตามกฎหมาย โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สิน เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถใช้ทรัพย์สินดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจ และช่วยลดข้อจํากัดด้านหลักประกัน เช่น สังหาริมทรัพย์ที่ผู้ให้หลักประกันใช้ในการประกอบธุรกิจ สินค้าคงคลัง วัตถุดิบที่ใช้ ในการผลิตสินค้า หรือทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งที่ทรัพย์สินเหล่านี้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเช่นกัน อีกทั้งกระบวนการ บังคับจํานองมีความล่าช้าอันเป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ สมควรตรากฎหมายเพื่อรองรับการนําทรัพย์สิน ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมาใช้เป็นประกันการชําระหนี้ในลักษณะที่ไม่ต้องส่งมอบการครอบครองแก่เจ้าหน้าที่ และสร้างระบบการบังคับหลักประกันที่มีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมอันจะเป็นประโยชน์ต่อ การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะผู้ประกอบการSMEs