สทบ.จับกุมสินค้าหลีกเลี่ยง มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคในประเทศส่วนหนึ่งนิยมสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ผ่านช่องทางของผู้ให้บริการจัดซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น ทั้งที่ในข้อเท็จจริงแล้ว ผู้บริโภคไม่ทราบว่าสินค้านำเข้าที่สั่งซื้อมานั้น อาจไม่ผ่านพิธีการศุลกากรและชำระค่าภาษีอากรอย่างถูกต้องและครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจปล่อยสินค้า

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2559 บริษัท เค.เอส.อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต จำกัด และบริษัท เอสดับบลิวเอ. ชิปปิ้ง จำกัด ได้นำสินค้าบรรจุตู้คอนเทนเนอร์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ามาประเทศไทยทางท่าเรือแหลมฉบัง

จากผลการตรวจสอบสินค้าที่บรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์พบสินค้าไม่ได้สำแดงอีกจำนวนมาก ประกอบด้วยสินค้าทั่วไปที่ต้องชำระค่าภาษีอากร อาทิ เครื่องเสียง, จักรยานชนิดต่างๆ, กระเป๋า, รองเท้า และ เกมส์ประเภทต่าง ๆ รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 1,500 หีบห่อ มูลค่ารวมประมาณ 6.8 ล้านบาท กรณีดังกล่าวเป็นความผิดฐานสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงนำของต้องกำกัดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

และเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2559 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง    ได้ตรวจสอบใบขนสินค้าขาเข้า บริษัท สตาร์ไลท์ เซ็นทรัลเวิลด์ จำกัด สำแดงสินค้าจำนวน 2 รายการ “ส่วนประกอบพัดลม” เมืองกำเนิดประเทศจีน จำนวน 1,266 Cartons ผลการตรวจพบว่า ด้านหลังของตัวสินค้ามีข้อความแสดงว่า “ผลิตที่ประเทศไทย” ถือเป็นความผิดฐานสำแดงเมืองกำเนิดเป็นเท็จ มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ 1.8 ล้านบาท ทั้งสองกรณีดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ยึดของกลางไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม การสั่งซื้อ หรือนำพาของเข้าในราชอาณาจักร จะต้องสำแดงรายละเอียดแห่งของนั้นแก่ศุลกากรอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ตามช่องทางที่กำหนด และต้องชำระค่าภาษีอากรครบถ้วนเสียก่อน หากมีการลักลอบหรือหลีกเลี่ยงหนีศุลกากรจะดำเนินการตามกฎหมายทันที