รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
มะเร็งท่อน้ำดีหากตรวจพบและเข้ารับการรักษาในระยะเริ่มต้นมีโอกาสหายขาดสูงถึง 90% และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ตรงกันข้ามหากปล่อยทิ้งไว้ในระยะลุกลาม ไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีใดส่วนใหญ่เสียชีวิตภายใน 1 ปี
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ได้รายงานสถานการณ์มะเร็งตับและท่อน้ำดีในประเทศไทย พบมีอุบัติการณ์ของมะเร็งท่อน้ำดีสูงที่สุดในโลก พบผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 18,917 ราย เป็นเพศชาย 13,152 ราย และเพศหญิง 5,765 ราย และพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากมะเร็งตับและท่อน้ำดีปีละประมาณ 13,900 ราย
มะเร็งทอน้ำดีในระยะเริ่มต้นไม่มีอาการ แต่หากสามารถตรวจค้นเจอก่อนมีอาการได้ โดยการทำอัลตร้าซาวด์ช่องท้องในประชากรกลุ่มเสี่ยงต่อโรคมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งไม่เจ็บปวดและใช้เวลาไม่มาก
>>กลุ่มเสี่ยงมะเร็งท่อน้ำดี
ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และมีประวัติข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
-มีประวัตติดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับ
-เคยกินยาถ่ายพยาธิใบไม้ในตับ
-มีประวัติการกินปลาน้ำจืดสุก ๆดิบ ๆ
-มีประวัติญาติพี่น้องเป็นมะเร็งท่อน้ำดี
เมื่อพบความผิดปกติที่สงสัยว่าอาจจะเป็นมะเร็งท่อน้ำดี จะมีการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมด้วยเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือเอ็กซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อยืนยันว่าเป็นมะเร็งท่อน้ำดีหรือไม่ โดยการตรวจทั้งสองวิธีไม่ทำให้เจ็บปวดแต่อย่างใด
การรักษามะเร็งท่อน้ำดีระยะเริ่มต้น มีวิธีการรักษาวิธีเดียวคือ การผ่าตัด โดยสามารถผ่าตัดแบบเปิด หรือผ่าตัดแบบส่องกล้อง ผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีระยะเริ่มต้นมีความเสี่ยงต่อการผ่าตัดน้อยกว่าผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีในระยะลุกลาม โดยผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีระยะเริ่มต้นที่ได้รับการผ่าตัดมีโอกาสหายขาดสูงถึง 90% และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ตรงกันข้ามกับผู้ป่วยระยะลุกลาม ไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีใดส่วนใหญ่เสียชีวิตภายใน 1 ปี
รู้อย่างนี้แล้วหากคุณรู้ตัวว่าเสี่ยงก็ควรเข้ารับการตรวจเสียแต่เนิ่น ๆดีกว่าปล่อยให้ลุกลามจนถึงขั้นเสียชีวิต
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ