เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วย “ต้นทุนต่ำ”


เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วย “ต้นทุนต่ำ”

ไม่น่าเชื่อว่าช่วงวิกฤตของธุรกิจอย่าง ยอดขายตก กำไรน้อย หรือเศรษฐกิจไม่ดี กลับเป็นช่วงที่น่าลงทุนได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะช่วงเวลานี้เองที่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายคนต่างเคยมองหา “โอกาส” ขณะที่เป็นช่วงขาลงของธุรกิจ จนสร้างเป็นความสำเร็จของธุรกิจขึ้นมามากมาย แต่จะดีแค่ไหนช่วงวิกฤตอย่างนี้หากได้ลงทุนในต้นทุนที่ต่ำลง วันนี้เรามีกลยุทธ์ รับมือธุรกิจช่วงวิกฤตด้วยต้นทุนต่ำ ที่สอดคล้องกับทฤษฎี “พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส” อย่างแท้จริง

  1. การจัดการเรื่องเงิน

เมื่อธุรกิจของคุณเข้าสู่ช่วงเวลาวิกฤต กลยุทธ์ทางการเงินกลายเป็นสิ่งแรกที่คุณต้องให้ความสนใจ ไม่ว่าธุรกิจของคุณยอดขายจะตกหรือเงินจะขาดมากเพียงไรก็ไม่ควรทำให้ยอดเงินที่เข้าบัญชีธนาคารขาดหาย ต้องวิ่งตัวเลขในบัญชีให้สม่ำเสมอ นอกจากนี้ห้ามจ่ายเงินสดโดยไม่ผ่านบัญชีธนาคารเด็ดขาด เพราะจะทำให้ตัวเลขในบัญชีไม่แสดงสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารเงินของเจ้าของกิจการ และเป็นสิ่งที่ธนาคารจะนำมาวิเคราะห์เพื่อปล่อยกู้หรือให้เงินทุนต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งสำหรับธุรกิจที่อยู่ในช่วงเสี่ยง คงไม่ดีแน่หากธนาคารปฏิเสธการให้เงินกู้ เพราะธนาคารเองก็เป็นธุรกิจเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจธนาคารจะเลือกลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินเท่านั้น

  1. ปรับแผนการตลาด

ในยามปกตินักธุรกิจทั่วไปมักจะวางแผนการตลาดจกยอดขายทำเล หรือโปรโมชั่นต่าง ๆ  แต่ในยามที่ธุรกิจของคุณนั้นอยู่ในช่วงวิกฤต  ผู้ประกอบการต้องเริ่มสังเกตว่ายอดขายที่ถดถอย กำไรที่ลดลง เป็นเฉพาะธุรกิจของเราหรือไม่ หากใช่ให้หาข้อผิดพลาดภายในองค์กรให้พบแล้วรีบแก้ไข  แต่ถ้ากลุ่มกิจการเดียวกับเราพบวิกฤตเช่นกัน คุณอาจจะพบกับวิกฤตเศรษฐกิจ และควรหันมาให้ความสนใจการระบายสินค้าที่ค้างในสต๊อกนาน ยอมขาดทุนบางส่วนเพื่อเรียกเงินสดกลับคืนมา

  1. หันมาใส่ใจ “ทำเลการค้า”

ทำเลการค้าถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำธุรกิจ เพราะในช่วงที่เศรษฐกิจดีเจ้าของธุรกิจมักจะหาทำเลการค้ายาก เพราะทำเลดีๆมักจะมีราคาแพงและบางครั้งต่อให้จ่ายแพงก็ยังไม่ได้ทำเลที่ดีพอ  กลับกันเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำลงทำเลการค้าต่างๆจะมีพื้นที่ว่ามากขึ้นและมีให้เลือกเป็นจำนวนมากในราคาทีถูกลงแถมยังต่อราคาได้ ดังนั้นเมื่อถึงคราววิกฤตของเศรษฐกิจ จะถือเป็นช่วงที่ดีในการหาทำเลตั้งร้านหรือการขยายสาขาให้กับธุรกิจของคุณใหม่ เพราะใช้ต้นทุนค่าที่ต่ำลง แต่ทั้งนี้ควรให้ความใส่ใจกับปริมาณลูกค้าเป้าหมาย ว่ามากเพียงพอหรือไม่สำหรับการเปิดร้านหรือเปิดสาขาใหม่หรือไม่ เป็นต้น

  1. เพิ่มช่องทางการขายด้วย “การตลาดออนไลน์”

การตลาดออนไลน์อาจเป็นคำตอบสำหรับธุรกิจที่กำลังหาทางออกในการเพิ่มยอดขายใหม่ เพราะปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าคนในยุคนี้สนใจโลกออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์คมากกว่าแต่ก่อนหลายเท่าตัว นอกจากนี้การลงทุนกับการตลาดออนไลน์ยังใช้ต้นทุนต่ำที่สุดในบรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหมด แต่การตลาดออนไลน์ยังมีข้อจำกัดตรงที่เจ้าของธุรกิจจะต้องสร้างกลุ่มลูกค้าด้วยตนเอง ด้วยการใช้เนื้อหา (Content) ข้อความ ภาพ คลิป VDO ที่จำเป็นต้องตรงกับกลุ่มลูกค้ามากๆ  และการโปรโมทที่ตรงกับพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้านั้นๆให้มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดต้องใช้เวลาและความเข้าใจพฤติกรรมของคนซื้ออย่างแท้จริงจึงจะสร้างยอดขายขึ้นมาได้ นอกจากนี้การซื้อไลค์ และซื้อพื้นที่โฆษณาออนไลน์ยังมีค่าใช้จ่าย หากคุณลงทุนจ่ายเพื่อได้ยอดไลค์ หรือการมองเห็นในสื่อออนไลน์อย่างผิดจุดและไม่ตรงกลุ่มผู้ซื้อ ก็จะเสียเงินใช่เหตุอย่างน่าเสียดาย

แม้ยอดขายจะตก แต่การแก้ปัญหาสต๊อคที่ดี จะช่วยให้เงินสดในมือเพิ่มมากขึ้นและมีเงินสร้างตัวเลขในบัญชีธนาคารได้  นอกจากนี้ช่วงเวลาดังกล่าวยังเป็นโอกาสในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์มองหาทำเลใหม่สินค้าใหม่ๆ หรือหันมาสนใจการทำตลาดออนไลน์มากขึ้นซึ่งวิธีเหล่านี้นอกจากจะช่วยพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสแล้วยังใช้ต้นทุนต่ำอีกด้วย

By : รังรอง ทองเฉิดฉาย