กูรูเศรษฐกิจ ลั่น ไทยศูนย์กลางแห่งอาเซียน


สัมภาษณ์พิเศษ ไขความลับและเกาะติดความเคลื่อนไหว ในประเด็นใหม่ต้อนรับการเปิด AEC อย่างเต็มรูปแบบกับกูรูด้านเศรษฐกิจ รศ.ดร. สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์

Trading Nation หรือ AEC Trading Center คือ โอกาสครั้งสำคัญของประเทศไทยที่จะดึงกลุ่มประเทศนอกอาเซียนอย่าง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และอินเดียเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเพื่อเชื่อมโยงไปยังประเทศอื่น ๆ ใน เออีซี

ไทย ยิ้มรับกอบโกยค้าส่งหลังเปิด AEC

นายสมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และกูรูด้านเศรษฐกิจกล่าวว่า ไทยมีศักยภาพมากที่สุดในเรื่องของการตั้งตัวเป็นศูนย์กลางค้าเพื่อเชื่อมโยงประเทศระหว่างกลุ่มอาเซียนภาคพื้นดิน ซึ่งอยากแนะนำให้ทุกคนทราบก่อนว่าสิ่งที่จะได้เปรียบ 5 เรื่องสำหรับการเคลื่อนย้ายเสรีหลังเปิดอาเซียนนั้นประกอบไปด้วย เคลื่อนย้ายการค้าเสรีนำเข้าส่งออกภาษี 0% เกือบทั้งหมด เคลื่อนย้ายการลงทุนเสรีสามารถือหุ้นใหญ่ในอีก 9 ประเทศ สมาชิกอาเซียนได้ เคลื่อนย้ายภาคบริการเสรี เคลื่อนย้ายบุคคลเสรี และเคลื่อนย้ายเงินทุนเสรี

เมื่อมีการเคลื่อนย้ายเสรีเกิดขึ้นจะส่งผลให้ตลาดการค้าของประเทศไทยขยายขึ้นเป็น 600 กว่าล้านคน ประเทศไทยจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางแห่งอาเซียน โดยเฉพาะอาเซียนส่วนที่เป็นแผ่นดินใหญ่ ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางในการค้าปลีกส่งเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา โดยกลุ่มธุรกิจที่น่าจับตามอง คือ ธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบโชว์ห่วย โดยเฉพาะพื้นที่ต่างในจังหวัด ซึ่งยังมีร้านค้าปลีกไม่มาก ทำให้ประเทศไทยที่ตั้งตัวเป็นศูนย์กลาง จะต้องมีความพร้อมในด้านธุรกิจค้าส่ง เนื่องจากจะได้เปรียบจากการที่เพื่อนบ้านไม่สามารถผลิตสินค้าเองได้

ย้ำ ศักยภาพไทยศูนย์กลางเชื่อมโยงอาเซียน

นายสมภพยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องมีศูนย์กระจายสินค้า โลจิสติกส์ และการค้าส่งที่ดี เมื่อประเทศเพื่อบ้านมีการพัฒนาประเทศมากขึ้นทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การตัดถนน การกระจายความเป็นเมือง และมีการเปิดประเทศมากขึ้น ตลาดจะมีการขยายตัว จนกลายเป็นโอกาสให้กับประเทศไทยในการกระจายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

สำหรับด้านการลงทุน ด้วยความที่ประเทศไทยมีการพัฒนามากกว่าประเทศ CLMV (ลาว เมียนมาร์ กัมพูชา และเวียดนาม) ประเทศไทยมีการเปิดประเทศมาก่อน ทำให้สามารถดึงดูดนักลงทุนจากประเทศนอกอาเซียน ทั้ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน เพื่อใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน

ในด้านภาคบริการ การท่องเที่ยว การศึกษา กีฬา ประกันภัย โลจิสติกส์ และธุรกิจบันเทิง ประเทศไทยก็มีความพร้อมมากว่าประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางเช่นเดียวกับด้านอื่น ๆ และที่สำคัญสำหรับแรงงานมีฝีมือในประเทศอาเซียนจะเริ่มมีการเคลื่อนย้ายและต้องการเข้ามาทำงานที่ประเทศไทย เนื่องจากได้ค่าตอบแทนที่ดีกว่าในประเทศตนเอง

นอกจากนี้เรื่องของการเคลื่อนย้ายเงินทุน ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงธนาคาร ตลาดเงิน และตลาดทุน จากการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรี และมีที่มาที่ไปว่าแหล่งทุนมาจากที่ใดอย่างชัดเจน เป็นสิ่งที่ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากอาเซียนมหาศาล

“จีดีพีประเทศไทยมากกว่าประเทศ CLMV รวมกัน แต่มีคน 170 กว่าล้านคน แต่ประเทศไทยมี 60 กว่าล้านคน เพราะฉะนั้นประเทศไทยได้เปรียบกว่ามา ควรช่วยเหลือซึ่งกันและกันและใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนย้ายเสรี 5 เรื่อง สร้างความร่วมมือที่ยั่งยืนของผลประโยชน์ร่วมกันระยะยาวเป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องเตรียมการ” นายสมภพกล่าว

สินค้าไทยมีชัยเหนือจีน

ทั้งนี้สำหรับด้านความพร้อมในประเทศไทยนั้น นายสมภพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยยังไม่มีความพร้อมอย่างเต็มที่เท่าที่ควร เนื่องจากปัญหาคลาดแคลนแรงงาน จึงต้องแก้ปัญหาเรื่องจะพัฒนาอย่างไรให้ในประเทศมีความสามารถมากขึ้นอย่างรอบด้านทั้ง 5 เรื่อง คือ เชี่ยวชาญในสายงาน การเงิน เทคโนโลยี ภาษา และการจัดการทรัพยากรมนุษย์

นายสมภพ กล่าวเสริมว่า ประเทศเพื่อนบ้านนั้นยังไม่มีความพร้อมเรื่องค้าปลีกสมัยใหม่ เนื่องจากเพิ่งมีการเปิดประเทศ และรายได้ยังไม่ถึงขั้นที่สามารถซื้อสินค้าผ่านห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต จึงดำเนินธุรกิจในรูปแบบค้าปลีกร้านโชว์ห่วย ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับประเทศไทยเมื่อ 3 – 4 ปีก่อน เพราะฉะนั้นจึงได้ย้ำเสมอว่าประเทศไทยจะกอบโกยจากการค้าส่งเพราะว่าประเทศเพื่อนบ้านไม่สามารถผลิตสินค้าเองได้ โดยจะมีสินค้าจากประเทศจีนเป็นคู่แข่ง

“สินค้าไทยจะได้เปรียบกว่าสินค้าจากจีนเนื่องจากคุณภาพและความนิยมในบรรดาประเทศอาเซียนนั้นมีต่อสินค้าจากไทยมากกว่า ประกอบกับราคาสินค้าทั้งสองประเทศห่างกันไม่มาก อีกทั้งภาพลักษณ์สินค้าของประเทศไทยยังเหนือกว่า สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นความได้เปรียบทางการค้าของประเทศไทย นอกจากนี้ประเทศเพื่อนบ้านยังยินดีที่ใช้เงินบาทไม่น้อยไปกว่าเงินท้องถิ่นในประเทศตัวเองอีกด้วย” นายสมภพกล่าวทิ้งท้าย

By : กุลจิรา มุทขอนแก่น