จากห้องแถวเบเกอรี่ สู่อาณาจักรเบเกอรี่หลายร้อยล้าน

จุดเริ่มต้นของธุรกิจ “ศรีฟ้า”

จุดเริ่มต้นมาจากคุณพ่อเปิดร้านขายเบเกอรี่เล็กๆเพียงห้องแถวเดียว ซึ่งใช้ชื่อว่าศรีฟ้าตั้งแต่แรก แต่ในสมัยก่อนคนกาญจน์ยังไม่ค่อยชอบทานขนมปังเป็นของทานเล่น ทั้งในเรื่องของรสชาติก็ยังไม่ถูกใจลูกค้ามากนัก จึงทำให้ขนมปังขายไม่ได้จึงต้องล้มเลิกธุรกิจนี้ไป แต่คุณพ่อเองยังไม่ล้มเลิกความพยายาม คุณพ่อได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพโดยเข้าไปทำงานในร้านเบเกอรี่ชื่อดังในสมัยนั้นเพื่อเข้าไปเรียนรู้วิธีการทำขนมเบเกอรี่เพื่อนำไปปรับใช้ในการขาย ซึ่งคุณพ่อใช้เวลาเรียนรู้งานประมาณ 4-5 เดือน และได้กลับมาทำเบเกอรี่ขายที่กาญจบุรีเหมือนเดิม แต่ก็ยังขายไม่ได้ จึงต้องนำไปแจกจ่ายให้คนแถวนั้น ด้วยความอร่อยจึงทำให้มีการพูดแบบปากต่อปากกัน จนทำให้เบเกอรี่ของคุณพ่อขายดีขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าจากหลากหลายสารทิศแห่กันมาซื้อจนทำให้ต้องขยายสาขาถึง 4 สาขาเพิ่มเติมเพื่อให้ลูกค้าสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้น

ต่อมาทางคุณพ่อได้สร้างโรงงานเพื่อที่จะสามารถกระจายสินค้าไปยังสาขาที่เปิดเพิ่ม และใช้รถขนส่งเพื่อลำเลียงเบเกอรี่ไปยังสาขาต่างๆ เพื่อที่จะลดปัญหาในเรื่องของเวลาในการทำงานลง ต่อมาทางคุณพีรวัส เจนตระกูลโรจน์ ทายาทธุรกิจ ได้เข้ามาช่วยคุณพ่อในการบริหารงานต่อ กิจการศรีฟ้าเติบโตขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ขยายโรงงานที่ใหญ่ขึ้น และสินค้าที่ขายดีไม่แพ่เค้กฝอยทองคือทองม้วนที่ทั้งชาวไทยและต่างชาติให้การยอมรับในเรื่องของรสชาติและคุณภาพของศรีฟ้า

โดยทางศรีฟ้าเองได้เป็นกลุ่มลูกค้าทางการตลาดออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่

1. ส่งขายตามห้างสรรพสินค้า

2. ส่งออกไปยังต่างประเทศ

3. ร้านที่เป็นสาขาของศรีฟ้าแต่เดิม

4. กลุ่ม B2B ธุรกิจกับธุรกิจ อาทิเช่น โรงงานที่ต้องใช้เบเกอรี่เป็นส่วนประกอบในการทำ

5. กลุ่ม SME อาทิเช่น ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่เล็กๆ ร้านอาหาร หรือโรงแรม

6. อื่นๆ เช่น โรงงานสั่งผลิตไปแจกลูกน้อง หรือ ทาง บขส.สั่งผลิตไปแจกเป็นของว่างบนรถทัวร์

ซึ่งการแบ่งกลุ่มทางการตลาดออกไปหลายๆกลุ่ม จะทำให้สามารถลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจลงได้ ในการทำธุรกิจในสมัยใหม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการบริหารโดยการที่จะสร้างตัวตนเพื่อที่จะเข้ามาบริหารงานแทนคุณพ่อโดยต้องอาศัยการพิสูจน์ฝีมือเพื่อที่จะทำให้ลูกน้องยอมรับ โดยคุณพีรวัสได้บอกถึงหลักในการทำธุรกิจว่า การทำธุรกิจ 2 สิ่งที่เราจะนึกถึง คือ คุณภาพของสินค้าและความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า เชื่อได้ว่าไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม ถ้ามีหลัก 2 อย่างนี้ก็จะทำให้ธุรกิจสามารถไปได้และสำเร็จในไม่ช้า