ทะลายทุกกำแพงแห่ง Generation เมื่อ Gen C กำลังครองโลก


นักการตลาดเตรียมปรับกลยุทธ์ ล้วงใจเจนเนอเรชั่น C ให้ทันก่อนครองยุค 2020

“สังคมก้มหน้า” เป็นสิ่งที่หลายคนนิยามกึ่งเสียดเสียผู้คนในคริสตศักราช 2016 เมื่อยุคสมัยที่โทรศัพท์มือถือแทบจะกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับมนุษย์

การวิวัฒนาการอย่างก้าวกระโดดจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ธรรมดาจนกลายมาเป็นสมาร์ทโฟน (Smartphone) ในยุคปัจจุบันสร้างปรากฏการณ์เปลี่ยนแปลงมนุษย์ในเกือบทุกด้าน ผู้คนทำกิจกรรมมากมายบนอุปกรณ์สื่อสารสุดล้ำในมือ ติดต่อสื่อสารระหว่างส่วนบุคคล – กลุ่ม ฟังเพลง เล่นเกมส์ ชมภาพยนตร์ มีเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทำธุรกรรมทางการเงิน การดำเนินธุรกิจพาณิชย์ออนไลน์ (E – Commerce) จนกระทั่งก่อเกิดเป็นสังคมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy)

ซึ่งสำหรับ E – Commerce เริ่มเข้ามามีการเติบโตอย่างมาก โดยเจ้าแห่ง E – Commerce ในยุคแรกอย่าง Amazon รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4/2015 มีรายได้ 35,747 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2014 และตัดปัจจัยความผันผวนค่าเงิน รายได้จะเพิ่มขึ้นถึง 26% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 482 ล้านดอลลาร์ สูงที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท แม้ว่านักการตลาดในยุค 2016 มีไม่น้อยที่ยังปรับตัวไม่ทันกับการตลาดออนไลน์ รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละยุค

ตัวเลขการเติบโตของ E – Commerce สะท้อน Life Style อันน่าสนใจของมนุษย์ในสังคมยุคใหม่เป็นอย่างมาก สำหรับท่านผู้อ่านหลาย ๆ ท่าน อาจเคยทราบข้อมูลเรื่องการแบ่ง Generation ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Gen X, Gen Y และGen Z ซึ่งเป็นการแบ่งตามช่วงอายุ ให้ง่ายในการวางแผนสำหรับนักการตลาดในการทำความเข้าใจถึงกลุ่มผู้บริโภคตาม Generation แต่จากปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้เกิด New Generation ขึ้นมา โดย Google และ Nielsen บัญญัติเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Generation C ซึ่ง Gen C ไม่มีการจัดแบ่งตามอายุเหมือนเจเนอเรชั่นอื่น ๆ แต่จัดกลุ่มตามพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต และโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่ง C มาจาก Connected, Communication, Content – Centric, Computerized, Community Oriented และ Always Clicking โดยลักษณะของ Generation C จะขยายตัวสูง และคาดการณ์ว่าจนครองยุค 2020 ในที่สุด

“Generation C เป็นกลุ่มที่มีลักษณะการดำรงชีวิตในรูปแบบที่ไม่ยอมไม่รับรู้ความจริงผ่านช่องทางสื่อสารอื่น ซึ่ง Gen C จะรับรู้ผ่านแค่โทรศัพท์สมาร์ทโฟน และโลกอินเทอร์เน็ตเท่านั้น อีกทั้ง ยังเชื่อทุกอย่างผ่านทางโลกเสมือนนี้”

การตลาดสำหรับ Gen C มีความใหม่อย่างมาก และนักโฆษณาก็ต้องปรับตัวให้ทันเช่นเดียวกับนักการตลาด เพราะนิสัยของ Gen C ไม่เชื่อโฆษณาอีกต่อไป แต่จะเชื่อในการตลาดแบบกระแสลมปาก (World of Mouth) เช่น กระแสการเติบโตของเครื่องสำอางและสกินแคร์ โดยนักการตลาดทำโฆษณาผ่านเหล่า Beauty Blogger ทั้งในรูปแบบ แกะกล่องรีวิว ไทน์อินสินค้า หรือนำเครื่องสำอางมาใช้ในคลิปวีดิโอสอนแต่งหน้าต่าง ๆ

นอกจากนี้ การทำ Viral Marketing เพื่อดึงกระแสสังคมให้ส่งต่อ เล่นกับอารมณ์ผู้บริโภคและสังคม หรือการทำ Crowed Sourcing ที่รวบรวมข้อมูลสินค้าผ่านการใช้จริงในหมู่ผู้บริโภคหรือกูรูในกลุ่มผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ในรูปแบบตั้งกระทู้บนสังคมออนไลน์ ก็มีความนิยมมาก การทำ Content Marketing, Seeding และ Advertorial จึงถูกดึงมาใช้กับการตลาดออนไลน์มากที่สุด จากการที่ผู้บริโภคเชื่อในโฆษณาน้อยลง แต่เชื่อในปากต่อปากมากกว่า

เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค หากนักการตลาดสามารถปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง จะเป็นการขจัดทิ้งอุปสรรคทางการตลาดได้อย่างไม่น่าห่วงอีกต่อไป ซึ่งมือใหม่ที่ยังไม่มีความชำนาญการตลาดออนไลน์อาจต้องลงมาศึกษาและมองทิศทางล่วงหน้า ถ้าหากสามารถปรับตัวได้เร็วและมีความเข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึงจับทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่เป็นกระแสไปเร็วมาเร็วอย่างอินเทอร์เน็ตได้ดี ก็สามารถเจาะและจับจริตทิศทางความต้องการของผู้บริโภคได้