สถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มส่งผลกระทบผู้ประกอบการ

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ค้าปลีกไทย เปิดเผย ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวเริ่มส่งผลกระทบผู้ประกอบธุรกิจการค้ามากขึ้น โดยในส่วนของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งพบว่า ร้านค้ารายย่อยที่เป็นคู่ค้าประเภทเงินเชื่อบางส่วนผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น โดยเห็นสัญญาณมาตั้งแต่ต้นปี 2559 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาการผิดนัดชำระหนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะการค้าขายได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่หดตัวลง ทำให้ผู้ประกอบการไม่มีเงินสดมาชำระค่าสินค้าภายในระยะเวลาที่กำหนด หากสถานการณ์เศรษฐกิจไม่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น การผิดนัดชำระหนี้จะแรงขึ้นและกระทบต่อเนื่องที่เกี่ยวเนื่องเป็นลูกโซ่

ทั้งนี้ ในส่วนของสมาคมค้าส่ง-ค้าปลีกไทยได้หารือกับร้านค้าเพื่อหาทางออกร่วมกัน เช่น ลดวงเงินเป็นลำดับขั้น จากปัจจุบันลูกค้าได้วงเงินสูงสุดหลักแสนบาทก็ให้วงเงินลดน้อยลง รวมทั้งแนะนำร้านค้ารายย่อยให้ลดความถี่และลดจำนวนสินค้าเข้าร้าน ให้เหมาะสมกับสภาวะการขายในปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็เจรจาให้ร้านค้ารายย่อยสามารถทยอยผ่อนชำระหนี้ได้ และหากผิดชำระนัดเกิน 3 ครั้ง จะปรับรูปแบบการขายเป็นลูกค้าเงินสดในครั้งต่อไป

นอกจากนี้ยังจูงใจให้คู่ค้าหันมาชำระเป็นเงินสดมากขึ้น ด้วยการให้ส่วนลดมากกว่าการขายสินค้าแบบเงินเชื่อประมาณ 1% โดยในอนาคตจะพยายามปรับรูปการจ่ายเงินให้เป็นการซื้อขายแบบเงินสด 100% สอดคล้องเทรนด์การซื้อขายด้วยเงินสดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ขาย ประกอบกับดอกเบี้ยเงินฝากลดลง ทำให้คนหันมาใช้จ่ายแบบเงินสดมากขึ้น