มาเลย์ออกแผนหนุนเอสเอ็มอีหวังทวงแชมป์ส่งออกอาเซียน


มาเลย์หวังกระตุ้นเศรษฐกิจจับมือหลายสถาบันการเงินปล่อยกู้เอสเอ็มอี

มาเลเซียเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งอาเซียน กำลังซุ่มทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจพัฒนาเอสเอ็มอีในประเทศ โดยคาดหวังจะกลับมาผงาดทวงคืนบัลลังก์ผู้นำการส่งออกในภูมิภาคอีกครั้ง ด้วยการสร้างแบรนด์และขยายการลงทุนไปยังภูมิภาค พร้อมกับการสนับสนุนของรัฐบาลและเอกชน

มาเลเซียกลายเป็นประเทศที่มีแผนพัฒนาเศรษฐกิจเป็นรูปประธรรมที่สุดในอาเซียน 10 ประเทศ

นอกจากนี้ เหล่าสถาบันการเงินของมาเลเซียยังให้ความสำคัญกับธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวคิดที่ว่า เอสเอ็มอีเป็นภาคธุรกิจที่สำคัญต่อการพัฒนาสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ เพิ่มอัตราการจ้างงาน และเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมประชามติ (GDP)

หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนเอสเอ็มอีในมาเลเซียคือ SME Corp ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี และได้รับการก่อตั้งโดยคำแนะนำจาก หน่วยงานของรัฐที่ให้การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ของประเทศไทย

สำนักส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า Yeow Swee Yun ประธานอาวุโส AmBank วิเคราะห์ว่า เอสเอ็มอีของมาเลเซียเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมีอัตราเติบโตที่ร้อยละ 22 – 29 ต่อปี และทาง AmBank ยังมุ่งเน้นการปล่อยเงินกู้ให้ เอสเอ็มอี มากขึ้น เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมาได้เริ่มต้นโครงการ BizSolutions ให้กู้แบบ package ต่าง ๆ สำหรับธุรกิจขาดเล็ก

AmBank ยังวิเคราะห์ต่อว่า เอสเอ็มอี ที่กู้เงินจากธนาคารจะกลายเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในอนาคต โดยจะมีการเน้นปล่อยกู้กับธุรกิจภาคบริการ การผลิต ก่อสร้าง และส่งออกสินค้า เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้ต้องการเงินทุนจำนวนมาก

นอกจากนี้ รัฐบาลมาเลเซียยังให้ความสำคัญกับ เอสเอ็มอี ในประเทศอย่างมาก เนื่องจากมีบทบาทต่อการขยายตัวของ GDP ประเทศ โดยให้เอสเอ็มอีริเริ่มนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการผลิตเพื่อการส่งออก เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้ากับสินค้าในตลาดโลก และยังได้รับแรงสนับสนุนทางการเงิน ผ่านโครงการกู้เงินต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง เช่นเดียวกันกับประเทศไทยที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการสนับสนุนเอสเอ็มอี จึงกลายเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการพัฒนาเอสเอ็มอีทั้งสองประเทศ ภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน “การอบรมเสริมสร้างสมรรถนะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และการหารือร่วมมือกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน” อีกด้วย

By : กุลจิรา มุทขอนแก่น