แค่ไอเดียธุรกิจดี ปลูกเมล่อนมีลาย ก็ประมูลขายได้ตั้ง 15,000!!!


แค่ไอเดียธุรกิจดี ปลูกเมล่อนมีลาย ก็ประมูลขายได้ตั้ง 15,000!!!

เพื่อตอกย้ำถึงคำพูดที่ว่า ‘ไอเดียดี มีชัยไปกว่าครึ่ง’ วันนี้สองพี่น้อง โตทับเที่ยง ได้พิสูจน์ให้พวกเราเห็นแล้ว จากการนำผลเมล่อนมาแปลงโฉมเพิ่มมูลค่าให้สินค้าตัวเอง เด้งจากเมล่อนลูกละ 250 บาท เป็น 7,000 บาท และ 8,000 บาท ในพริบตา

เรื่องราวความคิดสร้างสรรค์ที่น่าเหลือเชื่อนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดตรัง เมื่อนายไกรภูมิ และ นายไกรภพ โตทับเที่ยง เจ้าของ “สวนผักสวัสดี Sawasdee Hydroponics Farm” ที่มีพื้นที่ 10 ไร่ ได้ลงมือแปลงโฉมลูกเมล่อนจำนวน 2 ลูกให้ดูคล้ายกับผลไม้ปีศาจ จากการ์ตูนดังที่มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทั่วโลกเป็นแฟนคลับอย่าง ‘One Piece’

ด้วยความที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร เป็นเจ้าแรก และผลจากการเลือกทำตามการ์ตูนที่เข้าถึงผู้คนได้ทุกวัยไม่ใช่เพียงแค่เด็กเล็ก ทำให้ผลตอบรับของผลไม้ปีศาจ (เมล่อนแปลงโฉม) นี้ เป็นไปเหนือความคาดหมายของทุกคน เพราะตัวเลขสุดท้ายที่ปิดประมูลได้คือ ผลเมล่อนลูกโต ขนาดน้ำหนักประมาณ 800 กรัม มีราคาประมูลอยู่ที่ 8,000 บาท และ ผลเมล่อนลูกเล็ก ขนาดน้ำหนักประมาณ 600 กรัม มีราคาประมูลอยู่ที่ 7,000 บาท น่าเหลือเชื่อจริงๆ เลยใช่มั้ยล่ะ

ซึ่งปกติแล้วทางสวนผักสวัสดี Sawasdee Hydroponics Farm ก็ได้เปิดรับแกะสลักผลเมลอนเป็นลวดลายต่างๆ อยู่แล้ว เช่น ชื่อคน หรือภาพการ์ตูน เพื่อเป็นของขวัญให้ในวันพิเศษ ซึ่งราคาต่อลูกประมาณ 175, 200 และ 250 บาทตามขนาด หลายคนคงจะสงสัยใช่มั้ยล่ะว่าพวกเขาทำยังไงให้ลูกเมล่อนเหล่านี้เกิดเป็นลวดลายขึ้นมาได้ วิธีการก็ง่ายแสนง่ายคือ ใช้เหล็กแหลมแกะสลักลูกเมล่อนตั้งแต่อายุได้ประมาณ 10 วัน จะทำให้ลวดลายนั้นติดอยู่กับลูกเมล่อนไปตลอดจนกระทั่งอายุได้ 55 วันถึงค่อยตัดออก ก็จะได้ผลเมล่อนรูปร่างหน้าตาสุดแปลกแหวกแนว เก๋ไก๋ ตามไอเดียคนสั่งแล้ว

เห็นมั้ยล่ะครับว่าทุกอย่างรอบตัวเราสามารถเกิดเป็นธุรกิจได้หมด ยิ่งถ้าเรามีธุรกิจเป็นของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแค่ใส่ลูกเล่น ใส่ไอเดียลงไปในผลงานสักหน่อย สร้างความแปลกใหม่ และความโดดเด่นให้กับสินค้าของเราสักนิด จากสินค้าที่เราเห็นกันตามท้องตลาด ก็อาจจะกลายมาเป็นสินค้ายอดนิยม และทำให้ธุรกิจเราเอาชนะคู่แข่งอื่นๆ ได้

และสิ่งสำคัญของการเริ่มต้นพลิกชีวิตธุรกิจก็คือ การกล้าที่จะลงมือทำ ถ้าเรามีไอเดียที่ดี แต่ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร ไอเดียนั้นก็คงจะสูญเปล่าและไม่ได้สร้างประโยชน์อันใดแก่ธุรกิจ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้เริ่มลงมือทำตามความคิดสร้างสรรค์ของเราแล้ว เชื่อได้เลยว่าธุรกิจและสินค้าของเราจะต้องโดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากกว่าที่ผ่านมาแน่นอน

By : นริศ เส้นขาว

เครดิตภาพ : เฟซบุ๊ก sawasdeeHydroTrang