เผยไทยเป็นประเทศที่3ในเอเชียใช้กฎหมายฟื้นฟูกิจการ


เผยไทยเป็นประเทศที่3ในเอเชียใช้กฎหมายฟื้นฟูกิจการ

รัฐมนตรียุติธรรม เผยไทยเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย ที่ใช้กฎหมายฟื้นฟูกิจการในเอเชีย ด้าน สสว. ตั้งเป้าผลักดันSMEs เข้าร่วมโครงการกว่า 7,400 ราย พร้อมจัดโรดโชว์ 25 จังหวัดทั่วประเทศ

พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงรายละเอียดของแผนฟื้นฟู ว่า ร่างพ.ร.บ.ล้มลาย ฉบับที่ 9 พ.ศ.2559 ทีมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2559 เป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้ SMEs ที่ประสบปัญหาสภาพคล่อง ไม่สามารถชำระหนี้ได้ แต่ยังมีช่องทางในการดำเนินธุรกิจ สามารถยื่นคำขอฟื้นฟูกิจการได้ เช่นเดียวกับบริษัทจำกัด และบริษัทมหาชน จำกัด เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้ลูกหนี้ที่ประกอบธุรกิจ SMEs จะได้มีโอกาสปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ทั้งหลาย และดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ปัจจุบัน ประเทศไทย เราเป็นประเทศที่ 3 ที่มีการใช้กฎหมายฟื้นฟูกิจการ ต่อจากประเทศญี่ปุ่น และเกาหลี

ด้านนางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวต่อว่า สำหรับกฎหมายฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่มีวงเงินหนี้ไม่เกิน 10 ล้านบาท ได้รับสิทธิประโยชน์ กล่าว คือ หากเจ้าหนี้หลักรับแผนฟื้นฟูแล้ว เจ้าหนี้อื่น จะมาฟ้องไม่ได้ ซึ่งจะทำให้การปรับโครงสร้างหนี้เป็นไปได้ง่ายขึ้น โอกาสที่เจ้าหนี้เดิมจะให้เงินกู้เพิ่มเพื่อ SMEs ไปดำเนินธุรกิจต่อจะสามารถทำได้ดีขึ้น ไม่ต้องกลัว

เจ้าหนี้ที่เหลืออยู่มาฟ้อง ในส่วนของ SMEs กลุ่ม Turn Around ที่มาเข้าโครงการของ สสว. จะได้รับประโยชน์จากการนี้มาก สสว.จะประสานงานให้มีการยื่นแผนฟื้นฟู และมีโอกาสสูงมากที่จะมากู้เงินจากกองทุนพลิกฟื้นของสสว. โดยทางจะมีการจัดงานในลักษณะนี้ ทั่วประเทศ ในอีก 25 จังหวัด

จากข้อมูลทางการเงินของ SMEs พบว่า SMEs จำนวน 4.2 แสนรายนี้ มีจำวน SMEs ถึง 70% มีหนี้สิ้นน้อยกว่า 3 ล้านบาท และ SMEs ที่มีหนี้สินอยู่ในช่วง 3-10 ล้านบาท มีอยู่ 12% หรือ ประมาณ 51,000 ราย และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า SMEs มีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมี SMEs ที่มีโอกาสใช้ประโยชน์ จากพ.ร.บ. ฉบับนี้ มากถึง 7,400 ราย โดยในส่วนของธพว. เองมีลูกหนี้ที่อยู่ในข่ายที่ต้องปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 568 ราย คิดเป็นวงเงิน หนี้สินจำนวน 2,403 ล้านบาท ที่เหลือ ก็เป็นวงเงินหนี้ จากสถาบันการเงินอื่นๆ ซึ่งในงานนี้ ยังได้มีการเชิญสถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทบริหารสินทรัพย์มาร่วมในงานนี้ด้วย