กสิกรไทย ออกสินเชื่อรับพ.ร.บ.หลักประกันฯ


กสิกรไทย ออกสินเชื่อรับพ.ร.บ.หลักประกันฯ

ธนาคารกสิกรไทย ออกสินเชื่อรับพ.ร.บ.หลักประกันฯ สนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการที่ พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (4 กรกฎาคม) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น เนื่องจากเป็นการลดข้อจำกัดการนำทรัพย์สินมาใช้เป็นหลักประกันกับธนาคาร

โดยผู้ประกอบการสามารถนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ในกิจการไปใช้เป็นหลักประกันการขอสินเชื่อได้ และสามารถใช้หลักประกันนั้นในการดำเนินธุรกิจต่อไปโดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินนั้นให้กับธนาคาร เช่น วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า สินค้าคงคลัง ลูกหนี้การค้า สิทธิการเช่า และกิจการ เป็นต้น ทำให้ธนาคารมีความมั่นใจในการอนุมัติสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการและเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับธุรกิจ

ธนาคารกสิกรไทยพร้อมสนับสนุน พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ จึงได้ออกโครงการสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการที่มีหลักประกันทางธุรกิจสำหรับกลุ่มผู้ประกอบเอสเอ็มอี โดยใช้ลูกหนี้การค้าและสินค้าคงคลังมาเป็นหลักประกันเพื่อสนับสนุนเงินกู้ระยะยาวและเงินทุนหมุนเวียนให้กับลูกค้าปัจจุบัน ด้วยการให้วงเงินกู้เพิ่มเติม 20% จากวงเงินเดิมที่มีอยู่ สูงสุด 10 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการและเสริมสภาพคล่อง

และในส่วนของลูกค้ารายใหญ่ยังได้จัดทำโครงการสินเชื่อโดยมีลูกหนี้การค้าเป็นหลักประกันสำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ของธนาคาร เพื่อสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนให้กับธุรกิจในรูปของตั๋วสัญญาใช้เงิน ด้วยวงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท โดยผู้ใช้สินเชื่อทั้ง 2 โครงการจะต้องยินยอมให้ธนาคารนำทรัพย์สินเข้าจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ทั้งนี้ธนาคารจะสามารถลดกระบวนการตรวจสอบลูกหนี้การค้าออกไป ทำให้สามารถอนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยธนาคารได้จัดเตรียมวงเงินสำหรับ 2 โครงการนี้ไว้ที่ 10,000 ล้านบาท เพื่อให้การสนับสนุนสินเชื่อสำหรับธุรกิจภายใต้โครงการนี้อย่างเต็มที่ เพราะธนาคารตระหนักดีว่าเงินทุนเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ และการใช้หลักประกันในรูปแบบใหม่ ๆ ตาม พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงเงินทุนเพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนหรือขยายกิจการได้เพิ่มขึ้น