11.28 น. ‘สิงคโปร์-ฮ่องกง’ชิงฮับ ฟินเทคเอเชีย

การให้เงินช่วยเหลือจากภาครัฐบาล กฎระเบียบที่ไม่ซับซ้อน และการเคลื่อนไหวเพื่อเปิดให้สตาร์ทอัพทดสอบผลิตภัณฑ์การเงินของตัวเองในสภาพที่ควบคุมได้เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้สิงคโปร์แซงหน้าฮ่องกงเป็นศูนย์กลางฟินเทคของภูมิภาค โดยบรรดาบริษัทฟินเทคกำลังเขย่าวงการธนาคารและบริการการเงินแบบเดิม ในแบบเดียวกับที่อูเบอร์ แอร์บีเอ็นบี และบริการอื่นๆ เคยเขย่าธุรกิจแท็กซี่และ โรงแรม ด้วยการอาศัยประโยชน์จากเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย

การผลักดันฟินเทคของสิงคโปร์นั้น เกิดขึ้นในช่วงที่บทบาทการเป็นศูนย์กลางบริการการเงินลูกค้ารายบุคคลรายใหญ่ กำลังสั่นคลอนจากเรื่องฉาวการฟอกเงิน หลายพันล้านดอลลาร์ในมาเลเซีย ส่วนอินโดนีเซียกำลังปราบปรามการนำเงินไปพักไว้ในสิงคโปร์ซึ่งเก็บภาษีต่ำ ขณะเดียวกันกลไกดั้งเดิมที่ขับเคลื่อน การเติบโตของสิงคโปร์ อย่างอุตสาหกรรมเดินเรือและการผลิต กำลังซบเซา ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับอุปสงค์และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ นอกจากนั้น สิงคโปร์ ยังดึงดูดความสนใจได้มากมาย รวมถึงจากบริษัทฟินเทค หลายแห่งจากราว 60,000 รายใน กรุงลอนดอน แนวโน้มนี้น่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังชาวสหราชอาณาจักรออกเสียงให้ ถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู)

ขณะเดียวกัน คณะผู้บริหารฮ่องกงได้ให้เงินสนับสนุนด้านฟินเทคเกือบ 300 ล้านดอลลาร์ แต่บรรดาทนายความ ผู้ให้คำปรึกษา และผู้บริหารบรรดาบริษัทฟินเทค กล่าวไปในทิศทาง เดียวกันว่า สตาร์ทอัพยังเผชิญอุปสรรคด้านกฎระเบียบที่เข้มงวด อันทำให้มีบริษัทฟินเทคตั้งอยู่ในฮ่องกงไม่ถึง 100 ราย อย่างไรก็ตาม กฎระเบียบของฮ่องกงทำให้ยากที่จะสร้างเว็บไซต์ระดมทุน รวมถึงตั้งบริษัทจ่ายเงินดิจิทัล และนำเสนอบริการให้ยืมเงิน ทั้งยังยากต่อการได้รับใบอนุญาตประกอบการ