เผยข้อมูลวิจัย จีดีพี เอสเอ็มอีปีนี้เติบโต 2.5-2.7%


เผยข้อมูลวิจัย จีดีพี เอสเอ็มอีปีนี้เติบโต 2.5-2.7%

ผลสำรวจผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทั่วประเทศ พบว่า 1 ใน 3 เริ่มมีผลการดำเนินงานฟื้นตัวดีขึ้น จากการปรับลดต้นทุน

นายเกียรติอนันต์  ล้วนแก้ว คณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า จากที่ได้สำรวจผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทั่วประเทศ พบว่า 1 ใน 3 เริ่มมีผลการดำเนินงานฟื้นตัวดีขึ้น จากการปรับลดต้นทุน อาทิ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โรงแรม สปา สุขภาพอนามัย เทคโนโลยี เกษตรแปรรูปสมัยใหม่ แต่อีก 2 ใน 3 นั้น ยังแค่พอเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว และต้องขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น จึงจะเอื้อให้เอสเอ็มอีกลุ่มนี้เติบโตขึ้นได้ โดยเฉพาะค้าปลีก ค้าส่ง ซื้อมาขายไป สินค้าเกษตรแบบดั้งเดิม ที่อาจจะหายไปจากระบบ 5%

อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าทั้งปีนี้ เศรษฐกิจไทยน่าจะเติบโตถึง 3% ได้ จากเดิมที่คาดว่าจะโตเพียง 2.7% และมีผลทำให้จีดีพีเอสเอ็มอีโตได้ 2.5-2.7% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 2.84% พร้อมกันนี้มองว่า ธุรกิจเอสเอ็มอีจะฟื้นตัวดีขึ้นได้ เป็นช่วงไตรมาส 1-2 ปี หน้าเป็นต้นไป แต่การส่งออกนั้น ยังติดลบ 2-2.5%

ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีหลังนี้ แม้ว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะเชื่อว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จนมั่นใจที่จะเริ่มทำตลาดเชิงรุกแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาด้านสภาพคล่องที่สูงอยู่ โดยปัจจุบัน เอสเอ็มอีมีสภาพคล่องเพียง 35-45 วันเท่านั้น จากปกติที่ควรจะมี 60 วัน ที่สำคัญส่วนใหญ่ยังอยู่นอกระบบ ทำให้ได้รับความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ จากภาครัฐไม่เต็มที่ และแม้ว่าภาครัฐจะมีนโยบายส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีต่าง ๆ ออกมา แต่ในทางปฏิบัตินั้นมองว่า นโยบายกว้างเกินไป อีกทั้งยังดำเนินการล่าช้า ขณะที่ยังมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ ปัญหาการก่อการร้าย ซึ่งในไทยยังมีปัญหาด้านการรับมือกับภาวะวิกฤติ และปัญหาราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกตกต่ำ ที่จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร รวมทั้งกำลังซื้อ

นายเกียรติอนันต์ กล่าวด้วยว่า  รัฐบาล ดำเนินนโยบายส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีมาถูกทางแล้ว คือเดินไปในทิศทางเดียวกับเอสเอ็มอีอาเซียน เมื่อเทียบกับ มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม แต่ว่าเป็นการเดินช้ากว่ามาก โดยสิ่งที่แตกต่างกัน คือ วิธีคิด หรือแนวคิด โดยในอาเซียน จะเน้นสร้างผู้ประกอบการให้ก้าวสู่ตลาดโลก แต่เอสเอ็มอีไทย จะมองแค่ตลาดท้องถิ่นของตัวเองเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องการให้รัฐบาลเน้นการพัฒนาแนวคิด ทัศนคติ รวมถึงต้องเพิ่มทักษะของบุคคลากรในเอสเอ็มอีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น