สมคิดตามเรื่อง สตาร์ทอัพจาก ก.พาณิชย์

รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ประชุมร่วมกับกระทรวงพาณิชย์วันนี้ เพื่อหารือเรื่องการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายใน รวมถึงการพัฒนาผู้ประกอบการรายใหม่ หรือ กลุ่มสตาร์ตอัพ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเพื่อหารือร่วมกับ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งการพัฒนาผู้ประกอบการรายใหม่ (สตาร์ทอัพ) การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ผ่านการจัดตั้งตลาดต้องชม ตลาดชุมชน ตลอดจนการผลักดันให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก หรือเอสเอ็มอี ใช้การค้าออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังติดตามความคืบหน้าการเปิดรับฟังความคิดเห็นการเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือทีพีพี รวมถึงจะติดตามสถานการณ์และแผนงานการผลักดันการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังจากได้รับงบกลางปีจากรัฐบาล เพื่อผลักดันให้การมูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้ขยายตัวตามเป้าหมายที่ 5% จากปีก่อน แม้จะมีปัจจัยกดดันทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าที่ยังชะลอตัว

อย่างไรก็ดี ภาคเอกชนได้เห็นด้วยที่รัฐบาลจะเข้าร่วมความตกลงทีพีพี เพราะขณะนี้โลกเคลื่อนไหวไปเร็วและถ้าไทยไม่เข้าร่วมเจรจาจะทำให้ไทยตกขบวนรถไฟและในอนาคตจะแข่งขันไม่ได้และไม่มีข้อตกลงมาดูแลผลประโยชน์ของไทยและหากไทยไม่เข้าร่วมจะถูกทิ้งในสังคมโลก ทำให้สังคมไทยต้องมาตัดสินเรื่องนี้ และเห็นว่าข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศเป็นเครื่องมือพัฒนาเศรษฐกิจกิจ โดยถ้าข้อตกลงทำให้เกิดความเสียหายจุดใดก็ไปแก้จุดนั้น ทั้งนี้การเข้าร่วมเจรจาทีพีพี ช่วงนี้อาจจะช้าไปเล็กน้อย แต่ไม่ถือว่าเสียหาย โดยถ้าไทยเข้าไปร่วมช่วงนี้ต้องเข้าไปอยู่ในกลุ่มที่ 2 ที่เข้าไปในช่วงใกล้เคียงกัน ซึ่งกลุ่มแรกเริ่มเจรจาไปแล้วและทำให้กลุ่มที่เข้าไปทีหลังต้องยอมรับสิ่งที่กลุ่มแรกตกลงกันไว้ทำให้การต่อรองของไทยมีไม่มาก

ส่วนการเจรจาระดับทวิภาคีระหว่างไทยกับสหรัฐอาจจะไม่จำเป็นหลังจากนี้ เพราะสหรัฐต้องการผลักดันข้อตกลงพหุภาคี โดยกรอบข้อตกลงการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับสหรัฐเป็นการเจรจาที่ไม่มีข้อผูกมัดเหมือนการเจรจา ข้อตกการค้าเสรีหรือเอฟทีเอเพียงแต่เป็นแนวทางที่จะช่วยให้การค้าและการลงทุนดีขึ้นและเป็น จุดเริ่มต้นของข้อตกลงที่มีผลผูกมัด