ตลาดอีคอมเมิร์ซไทย เติบโตทะลุเป้าหมาย


ตลาดอีคอมเมิร์ซไทย เติบโตทะลุเป้าหมาย

ตลาดอีคอมเมิร์ซ ในประเทศไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยล่าสุด สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รายงานว่า การกำหนดเป้าหมายให้ขยายตัว 3.65% ในปี 2016 นั้น ขณะนี้ขยายตัวได้แล้ว 5%

นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. (เอ็ตด้า) กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดอี-คอมเมิร์ซโตกว่าที่คาดการณ์ไว้คือ เดิมคาดการณ์ว่า ในปี 2556 อัตราการเติบโตจะอยู่ที่ 3.65% แต่ ณ ขณะนี้ ตัวเลขดังกล่าวกลับมีมากกว่า  5% แล้ว

สำหรับการเติบโตในตลาดอี-คอมเมิร์ซถือว่าเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพิ่มขึ้นจากสองปีที่ผ่านมา จากปัจจัยสมาร์ทโฟนที่มีมากถึง 102 ล้านเครื่อง ทำให้จากที่เอ็ตด้าเคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือน ส.ค. 2558 ว่าตลาดอี-คอมเมิร์ซปี 2559 จะโต 2.1 ล้านล้านบาท แต่ตัวเลขยังไม่สรุป แต่เชื่อว่าจะทำได้ถึง 2.2-2.3 ล้านล้านบาท

ด้านดร.รัฐศาสตร์ กรสูต ผู้อำนวยการอาวุโส เอ็ตด้า กล่าวว่า แม้ความเชื่อมั่นในตลาดอี-คอมเมิร์ซจะสะดุดไปบ้างจากกรณีเอ็นโซโก้ แต่เชื่อว่าการทำตลาดอย่างต่อเนื่องจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นให้นักช็อปออนไลน์หันกลับมาจับจ่ายกันมากขึ้นอีกครั้ง เพื่อให้การทำธุรกรรมออนไลน์เป็นพื้นฐานการใช้งานในสังคม เรื่องของนโยบายและการส่งเสริมเพื่อกำหนดดูแลจึงมีอย่างต่อเนื่อง กรณีรายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น แสดงว่าไทยยังมีโอกาสใน

การซื้อขายออนไลน์อีกมาก แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือสงครามการตลาดที่จะมีความดุเดือดมากขึ้น

ปัจจุบัน ตลาดอี-คอมเมิร์ซของไทยคล้ายกับยุคแรกของตลาดอี-คอมเมิร์ซจีน คือ ผู้เล่นรายใหญ่เข้ามาทำตลาดออนไลน์กว่า 90% และที่เหลือเป็นรายย่อย แต่ในไทยมีความแตกต่างคือโซเชียลคอมเมิร์ซบูมมาก ทำให้ตลาดออนไลน์มีความแข็งแรงกว่าประเทศอื่นๆ

ทั้งนี้แม้เราจะเห็นผู้เล่นรายใหญ่เข้ามาในตลาดออนไลน์มากขึ้น แต่หากเทียบกับในต่างประเทศยังถือว่าน้อย ขณะที่ตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซของไทยกลับบูมมากจนเฟซบุ๊กต้องเปิดช็อปและเพย์เมนต์สำหรับรองรับตลาดไทยโดยเฉพาะ แต่เป็นการให้บริการจากผู้เล่นรายอื่นที่ไม่ใช่เฟซบุ๊กโดยตรง เอ็ตด้าจึงต้องเร่งดึงให้ผู้ขายออนไลน์เหล่านี้เข้ามาจดทะเบียนการค้าให้ถูกต้องเพื่อเพิ่มความเชื่อถือในการขายสินค้าและมีมาตรการจูงใจอย่างต่อเนื่อง