มั่นใจส่งออกข้าวไทยปีนี้ แตะเป้า 9.5 ล้านตัน


มั่นใจส่งออกข้าวไทยปีนี้ แตะเป้า 9.5 ล้านตัน

ตัวเลขการส่งออกข้าวไปยังฮ่องกงขณะนี้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่า เป้าหมายรวมที่กำหนดไว้ 9.5 ล้านตัน ไม่มีปัญหา แต่ก็เตือนให้ผู้ค้า เร่งหาตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อความมั่นคงด้านการตลาด

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์              นำรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ สคร. ณ เมืองฮ่องกง ออกมาเปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2559 ประเทศไทยยังคงครองตำแหน่งผู้ส่งข้าวรายใหญ่เข้าไปยังฮ่องกง ด้วยสัดส่วน 59.5%  รองลงมาได้แก่ เวียดนาม ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 27.7% และจีน 4.8% ตามลำดับ

ด้านปริมาณการนำเข้าข้าวของฮ่องกงในเดือนเมษายน 2559 นั้น ฮ่องกงนำเข้าข้าวจากทั่วโลกจำนวน 30,497 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 39.26% โดยนำเข้าข้าวหอม จำนวน 29,065 ตัน เพิ่มขึ้น 38.61%

ในจำนวนนี้ไทยส่งออกข้าวหอมมะลิไปยังฮ่องกง ได้ 17,196 ตัน เพิ่มขึ้น 58.81% จากช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่ส่งออกจำนวน 10,828 ตัน โดยไทยมีสัดส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิ 59.6% ในขณะที่เวียดนามมีสัดส่วน 28.6%

ส่วนมูลค่าการนำเข้าข้าวของฮ่องกงจากทั่วโลกนั้น มีมูลค่า 23.52 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 26.19% โดยแบ่งเป็นนำข้าวหอมมูลค่า 22.44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ // ในจำนวนนี้เป็นข้าวจากประเทศไทย 14.61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 64.7%  รองลงมาคือ เวียดนาม และจีน ที่สัดส่วน 20.1% และ 5.5% ตามลำดับ

สำหรับราคาข้าวในฮ่องกงช่วงเดือนเมษายน 2559 นั้น เริ่มทรงตัว แต่ก็ปรับตัวสูงขึ้นจากในช่วง 3 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ดังนั้นแผนงานของกระทรวงพาณิชย์ ที่มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เกาะฮ่องกง ดำเนินการเพื่อส่งเสริมการขายและผลักดันข้าวไทยในฮ่องกง ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ข้าวไทยผ่านงานแสดงสินค้า Food Fiesta 2016 // การจัดคณะผู้แทนการค้าข้าวฮ่องกงเยือนไทย รวมทั้งการดำเนินการร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ ในการจดเครื่องหมายตราเขียวของข้าวหอมมะลิไทย เป็นภาษากวางตุ้งอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทยจะมีสัดส่วนการส่งออกข้าวไปฮ่องกงเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่า ณ สิ้นปี 2559 ประเทศไทยจะสามารถส่งออกข้าวไปต่างประเทศได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้คือ 9.5 ล้านตัน แต่ผู้ประกอบการไทย ควรหาช่องทางการขยายตลาดข้าวไปสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยต้องหาทางให้หันมาบริโภคข้าวไทยเพิ่มมากขึ้น

โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหาร // ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนการบริโภคข้าวมากกว่ากลุ่มผู้บริโภคที่บริโภคในครัวเรือน อีกทั้งควรนำเสนอข้าวชนิดใหม่ๆ เช่น ข้าวสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำจากข้าว เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และรองรับกับแนวโน้มการบริโภคข้าวของคนรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มลดลง