กระตุ้นคนจนลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการ


กระตุ้นคนจนลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการ

หลังจากที่รัฐบาลเปิดให้คนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และมีรายได้ปีละไม่ถึง 1 แสนบาท ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ซึ่งมีการคาดกันว่า จะมีผู้สนใจลงทะเบียนมากกว่า 10 ล้านคน

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธ.ก.ส. ออกมาเปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการของรัฐ ที่ ธ.ก.ส. เปิดให้ลงทะเบียนเป็นวันแรก เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า  ประชาชนมีความตื่นตัวลงทะเบียนผ่าน ธ.ก.ส.ค่อนข้างมาก แต่ก็มีลูกค้าบางรายที่ไม่เข้าเงื่อนไข โดยเฉพาะในเรื่องของรายได้ที่เกิน 100,000 บาท ต่อปี

ทั้งนี้คาดว่า จะมีผู้สนใจลงทะเบียนทั้งระบบประมาณ 19 ล้านคน ในจำนวนนี้คาดว่า จะมีผู้ลงทะเบียนฯ ผ่าน ธ.ก.ส. ประมาณ 8-9 ล้านคน โดยส่วน ใหญ่จะเป็นเป็นผู้ประกอบอาชีพภาคการเกษตรที่มีรายได้ต่ำ

ขณะที่ นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในส่วนของธนาคารออมสิน คาดว่าตลอด 1 เดือนที่เปิดรับลงทะเบียน จะมีประชาชนสนใจลงทะเบียนกับธนาคารออมสิน ประมาณ  2 – 3 ล้านราย ซึ่งธนาคารออมสิน มั่นใจว่า จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ต้องการมาลงทะเบียนได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลขอเชิญชวนผู้ว่างงานหรือผู้มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี สัญชาติไทย และมีอายุ 18 ปีขึ้นไป เข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยโดยตรงอย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยรัฐบาลมีฐานข้อมูลที่สามารถใช้ประโยชน์ได้

ทั้งนี้ อยากให้พี่น้องประชาชน ใช้โอกาสที่ได้อยู่ร่วมกันในวันหยุดยาวนี้สำรวจตรวจสอบว่า มีญาติพี่น้อง หรือบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวเข้าข่ายคุณสมบัติดังกล่าวหรือไม่ โดยสามารถไปลงทะเบียนด้วยความสมัครใจได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 15 ส.ค. 2559 และจะต้องยินยอมเปิดเผยข้อมูล เช่น รายได้ ทรัพย์สิน เจ้าหนี้ และจำนวนหนี้สินที่คงค้าง เป็นต้น

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อไปว่า เมื่อลงทะเบียนแล้ว ธนาคารทั้ง 3 แห่ง จะส่งข้อมูลไปยังกรมสรรพากรเพื่อจัดเก็บข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้อง รวมทั้งจะเชื่อมโยงไปยังฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกระทรวงมหาดไทย เพื่อประมวลผลข้อมูลผู้มีรายได้น้อย และนำไปใช้จัดสวัสดิการสังคมแก่ประชาชนในระยะต่อไป

โดยผู้ที่ลงทะเบียนไม่ต้องวิตกกังวลว่า เมื่อให้ข้อมูลกับทางภาครัฐแล้วจะต้องเสียภาษี เพราะหากเป็นผู้ว่างงานหรือมีรายได้น้อยไม่ถึงเกณฑ์ที่รัฐกำหนด ก็ไม่เข้าข่ายต้องเสียภาษีอยู่แล้ว ในทางตรงกันข้าม หากผู้มีรายได้น้อยไม่ไปลงทะเบียน ก็อาจจะเสียสิทธิ์รับสวัสดิการจากภาครัฐ เช่น รถไฟฟรี รถเมล์ฟรี หรือสวัสดิการอื่นๆ ที่จะมีขึ้นในอนาคตได้