แบงก์กรุงศรีฯ ดันเอสเอ็มอีธุรกิจเชื่อม CLMV


ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กางแผนขยายสินเชื่อผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มากขึ้น หลังจากช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมาเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งมีแนวโน้มการขยายธุรกิจเชื่อมโยงลูกค้าในกลุ่มประเทศ CLMVที่มีกัมพูชา สปป.ลาว  เมียนมา และเวียดนาม

นายพรสนอง ตู้จินดา กรรมการบริหารประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (บมจ.) เปิดเผยว่า ปีนี้ธนาคารได้เริ่มกลับมาขยายสินเชื่อผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มากขึ้น หลังจากช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมาเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ธนาคารชะลอการเติบโตของสินเชื่อเอสเอ็มอีลง  โดยยังคงอัตราการเติบโตให้สอดคล้องกับภาวะที่เศรษฐกิจขยายตัวราว 3% ตามกำลังซื้อภายในประเทศ จากปัจจุบันธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างประมาณ 1.85-2 แสนล้านบาท ซึ่งแม้ว่าภาพรวมธุรกิจที่ขยายตัวได้ดี จะเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่ม โรงพยาบาล สินค้าที่เกี่ยวข้องอิเล็กทรอนิกส์หรือดิจิตอล ส่วนกลุ่มที่ขยายตัวได้แต่จะต้องเลือกให้ดี เช่น อสังหาริมทรัพย์

ส่วนแนวโน้มการขยายธุรกิจของลูกค้าในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว  เมียนมา และเวียดนาม)นั้น จะเห็นว่ารัฐบาลพยายามผลักดันโครงการความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ เพื่อดึงดูดการลงทุนระหว่างกันและภูมิภาคอื่นด้วย โดยธุรกิจขนาดใหญ่เข้าไปซื้อกิจการของกลุ่มประเทศเหล่านี้ค่อนข้างมาก  เช่น ดีลการซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า ธุรกิจรายย่อย และโรงแรม เป็นต้น ซึ่งดีลเหล่านี้เพื่อขยายฐานธุรกิจ

เนื่องจากหากขับเคลื่อนการเติบโตภายในประเทศอย่างเดียวคงจะไม่พอ จึงต้องอาศัยการเติบโตจากประเทศกลุ่มนี้ที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) เฉลี่ยสูงถึง 6-7% เมื่อเทียบกับประเทศไทยมีการขยายตัวของจีดีพีเฉลี่ยเพียง 2-3%

ทั้งนี้ ภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจและการลงทุนรวมของกลุ่ม CLMV พบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มประเทศ CLMV มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 7% และจะขยายตัวระดับนี้ต่อเนื่อง  ขณะที่อาเซียนโตเฉลี่ยเพียง 5% ส่วนไทยเติบโตเพียง 3% และหากพิจารณาด้านการบริโภค พบว่าที่อัตราการเติบโตสูงตามจำนวนประชากร เวียดนามมีประชากร 92 ล้านคน เมียนมา 52 ล้านคน โดยรวม สปป.ลาว และกัมพูชาจะมีประชากรรวมเกือบ 170 ล้านคน หรือคิดเป็น 3 เท่าของประชากรไทย สะท้อนถึงโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ