ส่งออกสับปะรดอบแห้งไปสหรัฐฯ แนวโน้มสดใส


อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แนะเร่งทำตลาดสับปะรดอบแห้งเพื่อส่งออก ควรคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์สับปะรดแปรรูปใหม่ๆ เพราะในสหรัฐที่มีแนวโน้มขยายตัวดี

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยภาวะสินค้าสับปะรดในตลาดสหรัฐอเมริกาขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6% มีมูลค่า 1,147 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4.13 หมื่นล้านบาท คาดว่าปี 2559 ตลาดสินค้าสับปะรดภาพรวมจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 5-8% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4.3 หมื่นล้านบาท โดยมีแนวโน้มนำเข้าสินค้าสับปะรดเพิ่มมากขึ้นเพื่อส่งออกต่อไปยังประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ และแคนาดา เป็นต้น

สำหรับสินค้าสับปะรดไทยที่มีศักยภาพในการทำตลาดในสหรัฐฯ ได้แก่ สับปะรดกระป๋องและน้ำสับปะรด และสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะนำเข้าจากไทยเพิ่มมากขึ้นอีก โดยสหรัฐฯ นำเข้าสับปะรดกระป๋องจากไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 59% รองลงมา ได้แก่ ฟิลิปปินส์ 25% อินโดนีเซีย 9% จีน 2% และเวียดนาม 2% ส่วนน้ำสับปะรด สหรัฐฯ นำเข้าจากไทยมากเป็นอันดับ 1 เช่นกัน คิดเป็น 48% รองลงมา ได้แก่ ฟิลิปปินส์ 18% คอสตาริกา 17% อินโดนีเซีย 11% และเคนยา 1%

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวผู้บริโภคชาวอเมริกันมีแนวโน้มต้องการบริโภคสินค้าอาหารกระป๋องลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันผู้บริโภคชาวอเมริกันให้ความสำคัญในการเลือกบริโภคสินค้าอาหารมากขึ้นและมักจะระมัดระวังการบริโภคอาหาร

ดังนั้นผู้ประกอบการไทยควรที่จะให้ความสำคัญและติดตามแนวโน้มตลาดผู้บริโภคเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเตรียมความพร้อมในการปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองไมอามี สหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่า ผู้ประกอบการควรคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์สับปะรดแปรรูปใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าให้สินค้าและตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในปัจจุบัน เช่น คุกกี้ทำจากสับปะรดอบแห้ง หรือ สับปะรดอบแห้งชุบช็อคโกแลต เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและโอกาสสำคัญในการขยายตลาดสินค้าแปรรูปของไทยในสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าสับปะรดอบแห้งมีราคาจำหน่ายในตลาดสูงกว่าสินค้าสับปะรดแปรรูปชนิดอื่นๆ