เจาะความสำคัญของนักท่องเที่ยวจีนในไทย


นายรณรงค์ ชีวินสิริอำนวย นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน (ทีซีทีเอ) ได้กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวจีนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกของนักท่องเที่ยว และอยากให้ประชาชนทั่วไปรวมถึงผู้ประกอบการตระหนักถึงความสำคัญของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีเข้ามาในเมืองไทยมากเป็นอันดับ1 หากชาวจีนพากันบอยคอตไม่มาก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจได้ ยกตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวชาวจีนลดการเที่ยวภาคเหนือ แต่หันไปเที่ยวทางใต้แทน ทำให้ผู้ประกอบการเชียงใหม่ เชียงราย ได้รับผลกระทบเรื่องรายได้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม สปา ร้านของฝาก หรือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ เป็นต้น

โดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคนต่อปี เฉลี่ยหัวละ 3.5 หมื่นบาท เท่ากับว่าสร้างเม็ดเงินสะพัดให้ประเทศได้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี ยิ่งขณะนี้จีนเองมีปัญหากับหลายประเทศยิ่งทำให้คนจีนสนใจหันมาเที่ยวในเมืองไทยมากขึ้นและทำการค้ากับไทยมากขึ้น ทั้งนี้การท่องเที่ยวในเมืองไทยของชาวจีนจะเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นแนวโน้มการค้าระหว่างไทย-จีนด้วย หากการท่องเที่ยวไปไม่รอดแสดงว่าการค้าก็ต้องไปไม่ได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ฟิลิปปินส์มีข้อพิพาทเรื่องทะเลจีนใต้กับจีน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปจากฟิลิปปินส์จำนวนมาก รวมถึงกล้วยหอมที่เป็นสินค้าส่งออกหลักของฟิลิปปินส์ก็หายไปจากตลาดจีนด้วย

สำหรับเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวจีน ทางรัฐบาลจีนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ประกาศออกไปว่าหากชาวจีนไปเที่ยวแล้วแสดงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมจะได้รับโทษหนักถึงขั้นห้ามออกนอกประเทศเป็นสิบปี และไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารเป็นสิบปีเช่นกัน ดั่งกรณีที่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ไปยืนร้องเพลงชาติจีนที่สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น แต่ในขณะเดียวกันวิธีแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการไทยที่จะให้บริการลูกค้าชาวจีน คือ การเรียนรู้ในวัฒนธรรมของจีนที่อาจมีบางอย่างแตกต่างกับคนไทย เช่น การใช้เสียงดัง การทานอาหารเสียงดังเพื่อเป็นการชื่นชมว่ารสชาติอาหารอร่อย หรือไกด์นำเที่ยวควรให้คำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับกฎระเบียบเวลาพานักท่องเที่ยวไปสถานที่เที่ยวสำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวเองก็ควรมีป้ายติดเป็นภาษาจีนอย่างชัดเจน เช่น ป้ายบอกทางไปสุขา ที่ไหนห้ามสูบบุหรี่ ที่ไหนห้ามส่งเสียงดัง และควรมีสุขาไว้รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างเพียงพอ เป็นต้น แม้แต่ธุรกิจให้คนจีนเช่ารถขับก็ควรจะตรวจสอบดูว่าผู้มาเช่ามีใบขับขี่ถูกต้องหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาบางบริษัทไม่ตรวจใบขับขี่นักท่องเที่ยว พอเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะมาโทษแค่นักท่องเที่ยวจีนฝ่ายเดียวอาจไม่ถูกต้อง ดังนั้นการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่ายย่อมเป็นผลดีมากกว่าโจมตีด้วยคำไม่เหมาะสมในโลกโซเชียล