ดัชนีเชื่อมั่นศก.ฐานรากเดือนมิ.ย.ดีขึ้น


ดัชนีเชื่อมั่นศก.ฐานรากเดือนมิ.ย.ดีขึ้น

ศูนย์วิจัยธนาคารออมสินระบุ ดัชนีเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากเดือนมิถุนายน ส่งสัญญาณดีขึ้น เนื่องจากภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย ลดกังวลเรื่องรายได้

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ผลการสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก (GSI) ประจำเดือนมิถุนายน 2559 ได้ดำเนินการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นประชาชนที่มีรายได้    ไม่เกิน 15,000 บาท ทั่วประเทศ จำนวน 1,533 ตัวอย่าง พบว่า GSI เดือนมิถุนายน 2559 ส่งสัญญาณดีขึ้น อยู่ที่ระดับ 46.3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม ที่อยู่ระดับ 43.6

เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคลี่คลายลงช่วยบรรเทาความกังวลในเรื่องรายได้ อีกทั้งระดับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวลดลงขณะเดียวกันประชาชนระดับฐานรากรู้สึกว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันฟื้นตัวค่อนข้างช้าและมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ทรงตัวในระดับสูง อีกทั้งมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ Brexit ที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้การที่ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากต่อสถานการณ์ใน 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น จากระดับ 44.2 ในเดือนพฤษภาคม มาอยู่ที่ระดับ 48.4 ในเดือนมิถุนายน 2559 สะท้อนให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของประชาชนระดับฐานรากยังคงขึ้นอยู่กับทิศทางการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะต่อไปที่จะส่งผลให้รายได้ของประชาชนเพิ่มขึ้น โดยคาดหวังว่ารัฐบาลจะเน้นค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อพิจารณาดัชนีความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ พบว่า ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกด้าน

โดยในส่วนของคาดการณ์การ การบริโภคของประชาชนระดับฐานรากยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนักในช่วงนี้ เนื่องจากยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของการบริโภคน่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ถ้าสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกคลี่คลายลง และประสิทธิภาพของการใช้จ่ายและลงทุนของภาครัฐ  เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นเป็นรูปธรรม

โดยทิศทางของความเชื่อมั่นของประชาชนระดับฐานรากยังคงขึ้นอยู่กับการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะต่อไปที่จะส่งผลให้รายได้ของประชาชนเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงยังคงมีหลายปัจจัยที่ต้องติดตามไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งออก ประสิทธิผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการเบิกจ่ายเม็ดเงินโครงการลงทุนที่ล้วนมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้