รัฐ-เอกชน เดินหน้าดัน OTOP ประชารัฐขึ้นเครื่องบิน


รัฐ-เอกชน เดินหน้าดัน OTOP ประชารัฐขึ้นเครื่องบิน

กรมการพัฒนาชุมชน จับมือพันธมิตร 8 หน่วยงาน เปิดตัว OTOP ประชารัฐขึ้นเครื่องบิน เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการโอทอป ผลักดันสินค้าโอทอปไทยออกไปสู่ตลาดสากล

นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ OTOP ประชารัฐเพื่อจำหน่ายบนเครื่องบิน ซึ่งโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ประชารัฐเพื่อจำหน่ายบนเครื่องบิน หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า OTOP ขึ้นเครื่องบิน เกิดจากดำริของพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเห็นผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาคนไทยได้รับการพัฒนา และมีช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้ทุกระดับ

จึงมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกับหน่วยงานภาคี 8 หน่วยงาน ประกอบด้วย บมจ.การบินไทย, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT), บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท ไทยแลนด์ มอลล์ (ประเทศไทย) ในการดำเนินการคัดเลือกและพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP จนสามารถนำขึ้นจำหน่ายบนเครื่องบินได้  ขณะนี้ กรมการพัฒนาชุมชน เร่งพัฒนาสินค้า OTOP เพื่อผลักดันขึ้นเครื่องสายการบินอื่นๆ ต่อไป

ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร (โช-ติ-กะ-เสถียร) กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยจะจัดนำ OTOP แคตตาล็อก จัดวางบนเครื่องบินของก การบินไทยทุกเที่ยวบิน ซึ่งผู้โดยสารสามารถสั่งซื้อสินค้า OTOP ผ่าน OTOP แคตตาล็อก ดังกล่าว ที่ บริษัท มอลล์ (ประเทศไทย) ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชนจัดพิมพ์ข้อมูลพร้อมภาพถ่ายสินค้าทั้ง 128 รายการ เพียงผู้โดยสารใช้ Smart Phone สแกน QR Code ที่ปรากฏบนแคตตาล็อก ก็สามารถทำรายการสั่งซื้อบนโทรศัพท์ได้เลย และสามารถรับสินค้าที่สนามบิน หรือให้บริการจัดส่งถึงบ้านก็ได้

นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบ E-Commerce โดยค้นหาได้ที่ www.thailandmall.com มีบริการจัดส่งถึงที่ รวมถึงการวางจำหน่ายในบูธ “ศาลาไทย” ร้านค้าปลอดภาษี ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งบริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย

สำหรับการดำเนินการครั้งนี้มุ่งหวังเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กว้างออกไป จะทำให้สินค้า OTOP ประชารัฐมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็ง และที่จะได้มากกว่าเรื่องของรายได้ก็คือ ชื่อเสียงประเทศไทยที่ถูกถ่ายทอดผ่านผลิตภัณฑ์ทางภูมิปัญญาของคนไทยที่เผยแพร่ไปทั่วโลกที่จะทำให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นได้รู้ว่าประเทศไทยมีดีๆ อีกมากมายให้ค้นหา ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนควรจะได้ร่วมกันภาคภูมิใจ