กรุณาลงจากหอคอยงาช้าง และคุณค่าของคำชื่นชม


งานไม่คืบหน้า ผลประกอบการย่ำแย่ สาเหตุแท้อยู่ที่ผู้นำ

หากเป้าหมาย จะพาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 2 ปี แต่ 6 เดือนแล้ว ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของบริษัทไม่ดีขึ้นเลย ถ้ามองดูลึก ๆ จริงๆ แล้ว สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่ลงทุกวัน … เพราะอะไร … อย่าโทษพนักงาน อย่าโทษใคร โทษตัวเองเลยในฐานะผู้นำ

ไม่ว่าธุรกิจคุณจะเล็กหรือใหญ่ ยกตัวอย่างเมื่อมีปัญหาเหล่านี้ คุณแก้อย่างไร
การเก็บตัวเลขยอดขายแต่ละวันเป็นไปด้วยความลำบาก แม้จะใช้ระบบคอมพิวเตอร์
สินค้าสูญหายเป็นประจำ ฯลฯ

แก้โดย …
เรื่องเก็บตัวเลขยอดขาย … สั่งให้พนักงานแผนกบัญชีหาระบบใหม่มาแทน
เรื่องสินค้าสูญหาย … มอบให้หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการไปดูแลเพราะเป็นหน้าที่ของเขา
เรื่องอื่น ๆ … สั่งให้คนนี้ คนนั้น คนโน้นจัดการ
และคุณ … ก็ประชุม ประชุม และประชุมจนเวลาหมดไปวันแล้ววันเล่า

แบบนี้ จะ 2 ปี 5 ปี 10 ปี หรือกี่ปี ก็ไม่ถึงตลาดหลักทรัพย์

สาเหตุเพราะคุณเป็นผู้นำบนหอคอยงาช้าง ที่เอาแต่สั่ง สั่ง สั่ง ไม่ได้คลุกคลีกับงานจริงมากพอที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ และปัญหาจะแก้ได้ก็แก้ที่คนเป็นอันดับแรก ไม่ใช่อะไร ๆ ก็ซื้อระบบใหม่

ผู้นำบนหอคอยงาช้าง คือ เป็นผู้ที่ขาดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ (แต่แสร้งกระตือรือร้น) เป็นผู้นำที่ไม่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดของงาน  ไม่รู้จัก (ไม่เป็นเพื่อน) กับพนักงาน
เข้าใจผิดคิดว่านั่งสวย ๆ เทห์ ๆ สั่ง และสั่ง แล้วจะได้งานการสำเร็จ

หากคุณต้องการเป็นผู้นำที่สามารถแก้ปัญหาได้เพื่อนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จ กรุณาลงจากหอคอยงาช้าง
และสิ่งที่ต้องตระหนักอย่างยิ่ง คือ “ไม่มีใครชอบเป็นคนรับคำสั่ง”  และเดล คาร์เนกี้ บอกไว้ว่า “กฏของธรรมชาติมนุษย์ที่ลึกที่สุด คือ ความกระหายอยากจะได้รับการชื่นชม” ดังนั้น ผู้ที่สามารถชื่นชมผู้อื่นอย่างจริงใจได้ ผู้นั้นจะได้รับการช่วยเหลือหมดหัวใจ

ตัวอย่างที่จะช่วยให้คุณเห็นภาพ … ในความเป็นไปในทุกเมื่อเชื่อวัน  เราเสริมสร้างร่างกายของลูกด้วยอาหาร  สร้างสัมพันธ์ภาพด้วยงานเลี้ยงสังสรรค์ทั้งกับเพื่อนและพนักงาน ด้วยอาหารอร่อยและเครื่องดื่มรสพิเศษ  แต่เราแทบไม่บำรุงและเสริมสร้างความภาคภูมิใจให้กับใครเลย ด้วยการละเลยที่จะให้คำชมเมื่อพวกเขาทำดี นานวันเข้ากำลังใจของพวกเขาก็หดหาย ความกระตือรือร้นก็เหือดแห้ง เช่นเดียวกัน หากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ร่างกายก็อ่อนแรง

ตัวอย่างน่าสนใจที่ เดล คาร์เนกี้ เขียนไว้ให้ตระหนักในหนังสือ “ศิลปะการผูกมิตร และจูงใจคน” (How to Win Friends & Influence People)

พาเมล่า ดันแฮม มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลงานภารโรง และมีภารโรงคนหนึ่ง ทำงานแย่มาก ใครๆ ก็ต่างพูดเยาะเย้ยเขา และแกล้งทิ้งของกระจัดกระจายเพื่อแสดงให้เขารู้ว่าเขาทำงานแย่มาก การทำงานของเขายิ่งแย่มากจนทำให้สูญเสียความมีประสิทธิภาพของร้าน

พาเมล่า พยายามหลายวิธีในการกระตุ้นภารโรงคนนี้ แต่ไม่สำเร็จ แต่บางครั้งพาเมล่าก็สังเกตเห็นว่าเขาทำงานดีมาก จึงได้ให้ความสนใจต่อเขาเป็นพิเศษ โดย “การชื่นชมเขาต่อหน้าคนอื่น” เมื่อเขาทำงานนั้น ๆ ได้ดีจริง ๆ

ในแต่ละวันงานของเขาดีขึ้นเรื่อย ๆ และในไม่นานเขาก็ทำงานทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนทำงานได้ดีเยี่ยม และคนอื่น ๆ ต่างก็ให้การชื่นชมและยอมรับเขา

ดังนั้น จงลงจากหอคอยงาช้าง ไปพูดคุย สนิทสนมกับพนักงานของคุณ เพื่อที่คุณจะได้มีโอกาสเห็นศักยภาพจริง ๆ ของเขา เพื่อสนับสนุเขา และจงตระหนักไว้ในใจเสมอว่า การแสดงความชื่นชมอย่างจริงใจ สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนและเปลี่ยนแปลงสถานการณ์บริษัทของคุณได้ เพราะพวกเขาจะทำงานให้คุณอย่างจริงใจที่สุดเช่นกัน

Paramita ชวนคุณ … ลงจากหอคอยงาช้าง และชื่นชมคนของคุณด้วยหัวใจ