กลเม็ดเด็ดพราย ! ปั้นร้านอาหารด้วย ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง


หลายปีที่ผ่านมา อาหารไทยถูกปากถูกใจนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น การทำธุรกิจร้านอาหารจึงแข่งขันรุนแรงขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะยุคนี้ที่ “ดิจิทัล” มาแรง เราจึงขอแนะนำให้รู้จักกูรูด้านการตลาดดิจิทัล ที่จะช่วยให้ธุรกิจร้านอาหารไปได้ไกล..ไปได้ดี

เผยกลยุทธ์รุกด้วยดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง

อ.ศรัณย์ ยุวรรณะ อาจารย์และที่ปรึกษาการตลาดดิจิทัล มาแนะนำเครื่องมือดิจิทัล พร้อมบอกเคล็ดลับการเลือกใช้เครื่องมือแต่ละประเภท ให้คุ้มค่า และโปรโมทอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้…

ถ้าร้านอาหารแบรนด์หนึ่งกำลังขยายสาขาในต่างจังหวัด จะต้องเซ็ตอัพสถานที่ให้ลูกค้าสามารถเช็กอินได้ แต่บางรายเมื่อลูกค้าเช็กอินแล้วไม่ได้ลิงก์ไปที่เพจร้าน อาจเป็นเพราะลูกค้าสร้างสถานที่เช็กอินเอง เจ้าของร้านจะต้องเข้าไปจัดการรวบรวมให้อยู่ในที่เดียวกัน

เสิร์ชร้านอาหาร ด้วย Google Maps   

Google Maps จะช่วยให้ลูกค้าของเราค้นหาร้านเราได้โดยง่าย มีแยกประเภทหลากหลาย แต่ความจริงแล้วร้านของเรามีอยู่ใน  Google  Maps หรือไม่  เมื่อมีแล้วจะจัดการอย่างไร และถ้าพบว่าลูกค้ารีวิวทั้งดีและไม่ดี เราจะโต้ตอบอย่างไร แต่การจะตอบลูกค้าได้นั้นเราต้องเป็นเจ้าของหมุดเสียก่อน

ส่วนการเช็กอินใน IG จะต้องมีหมุดใน Facebook ด้วย ฉะนั้นเมื่อลูกค้ามาทานอาหารที่ร้านเรา  แล้วถ่ายรูปเช็กอินร้าน  เราก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาเก็บรวบรวมแล้ววิเคราะห์ถึงพฤติกรรมลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาร้านของเราได้

เครื่องมือสุดเจ๋ง My Business

My Business  จะเป็นเครื่องมือชนิดนี้จะช่วยให้เราเพิ่มรูปร้าน อาหาร เมนูต่าง ๆ ได้ โดยเพิ่มได้อย่างน้อย 3 รูปขึ้นไป ใส่เวลาเปิด-ปิด เบอร์โทร.  ถ้ามีลูกค้าเข้ามารีวิว ก็จะมีการแจ้งเตือนให้รู้ ช่วยให้เจ้าของร้านเข้าไปตอบได้ไม่พลาด

เจ้าของร้านสามารถจะเช็กได้ในหลาย ๆ เรื่อง เช่น เช็กว่ามีลูกค้าเสิร์ชเข้าไปค้นหาร้านเรากี่ครั้ง ดูรูปอาหารที่ถ่ายไว้กี่ครั้ง  ลูกค้าโทร.มากี่ครั้ง โดยลูกค้าสามารถโทร.ได้จาก My Business ใน Google Maps เลย

ประโยชน์ของการติด Hash Tag

ร้านอาหารทุกแห่งควรตั้งแฮชแท็ก (Hash Tag) ไว้ให้ลูกค้าติดชื่อไว้ เช่น ชื่อร้าน ชื่อเมนู ชื่อสถานที่ ทั้งใน Facebook และ IG ปัจจุบันเราจะเห็นการติดแฮชแท็กจาก IG ค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลมากกว่าการลงโฆษณาแบบจ่ายเงิน

ส่วนกูรูอีกท่านหนึ่งอย่าง คุณยอด ชินสุภัคกุล ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์และแอปร้านอาหารยอดนิยมอันดับ 1  ของไทย Wongnai ผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการการรีวิวอาหารมานักต่อนัก จะมาเผยวิธีการทำร้านอาหารอย่างไรให้ดัง โดนใจลูกค้า เข้าตานักรีวิวและลูกค้า…ว่า

เจ้าของร้านอาหารควรโพสต์รูปอาหาร Content หรือกิจกรรมภายในร้าน 4 ครั้ง/วัน จึงจะเหมาะสม หรืออย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้งก็ยังดี และสามารถโพสต์ซ้ำได้ เพื่อให้ลูกค้าเห็นได้ทั่วกว่าการโพสต์แค่ครั้งเดียว

แต่ไม่ควรจะใช้ Original Content ทุกครั้ง เพราะจะเกิดความซ้ำซากจำเจ แต่ควรโพสต์จากเพจอื่นบ้างก็ได้ เช่น ถ้าเราทำร้านกาแฟ ก็ไม่จำเป็นต้องโพสต์รูปกาแฟทุกวัน แต่อาจจะเปลี่ยนเป็นการโพสต์เรื่องชาวเขาปลูกกาแฟ หรือแชร์รูปกาแฟสวย ๆ จากญี่ปุ่น เพื่อให้คนที่ติดตาม Content ของเราจะได้ไม่น่าเบื่อ เป็นต้น

เผย ! กลยุทธ์ที่ไม่ต้องใช้กลยุทธ์..ของ เพนกวินกินชาบู

วันนี้เรานำอีกหนึ่งกรณีศึกษา มาเล่าสู่กันฟัง  นั่นก็คือ ร้านชาบูสุดฮอตในยุคนี้เพนกวินกินชาบู (Penguin Eat Shabu)” โดย  คุณธนพันธ์ วงศ์ชินศรี เจ้าของร้าน Penguin Eat Shabu กับสโลแกนเด็ดมัดใจลูกค้า ”ไม่อร่อยให้ต่อยเพนกวิน” เล่าให้ฟังว่า…

ร้าน Penguin Eat Shabu   พบว่า คนที่เล่น Facebook แล้วมีปฏิสัมพันธ์ร่วมจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ดังนั้นทางร้านจึงใช้ Facebook โฟกัสไปที่ตลาดผู้หญิง ช่วงอายุ 23-33 ปี แล้วออกแบบโลโก้ให้มีจุดเด่นเป็นแบบผู้หญิง

แต่หลังจากที่เปิดร้านผ่านไปได้ 2 เดือน ก็เริ่มทนไม่ไหวกับการที่ต้องโพสต์รูปอาหารทุกวัน ซึ่งค่อนข้างน่าเบื่อ ก็เลยปรับคาแรกเตอร์กวน ๆ แอบหน้าม่อเล็กน้อย (เจ้าของร้านยืนยันคำนี้มาจริง ๆ) เมื่อลูกค้ามาทานที่ร้านแล้วถ่ายรูปโพสต์ใน Facebook หรือ IG แล้วติดแฮชแท็กก็สามารถ print รูปนั้นเอากลับบ้านได้เลย

ดังนั้นทุกจุดในร้านสามารถถ่ายรูปได้หมด  เพราะร้านได้สร้างแบรนดดิ้งในทุกจุดที่จับต้องได้ แล้วผลที่เกิดขึ้นจากการที่พยายามสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ จะทำให้เกิดการแชร์อย่างไม่หยุดยั้ง

………………………………..

จากงานสัมมนา “ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง สำหรับธุรกิจร้านอาหาร” จัดโดย ธนาคารกรุงเทพ

ชายเล็ก บดินทร์