คลังห่วงไอแบงก์สั่งเร่งแผนฟื้นฟู


คลังห่วงไอแบงก์สั่งเร่งแผนฟื้นฟู

สำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ ย้ำไอแบงก์ เร่งเดินหน้าแผนฟื้นฟู เล็งตั้งกรรมการติดตามการทำงาน หวั่นเสียเพิ่มขึ้น

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูของ 7 รัฐวิสาหกิจ ว่า ยังห่วงการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือไอแบงก์ ที่ขณะนี้มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) พุ่งกว่า 50% ของสินเชื่อรวม ทำให้ต้องเร่งหาแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ แผนฟื้นฟูของไอแบงก์ยังไม่คืบหน้า ทำให้ สคร.ต้องลงมาดูเองอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ สคร.ได้เสนอกระทรวงการคลังพิจารณาตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (เอเอ็มซี) เพื่อรับซื้อหนี้เสียในส่วนที่ไม่ใช่ของชาวมุสลิม 4 หมื่นล้านบาท ออกมาแล้ว และอยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งหลังจากดำเนินการตั้งเอเอ็มซีสำเร็จ อาจต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อติดตามการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูของไอแบงก์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

นายเอกนิติ กล่าวว่า ยังได้สั่งการให้คณะกรรมการธนาคารเร่งหาแนวทางในการดูแลเพื่อไม่ให้เกิดภาวะหนี้ตกชั้นเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ค่อนข้างมากแล้ว รวมทั้งให้หาข้อสรุปที่ชัดเจนว่า ธนาคารยังมีความพร้อมในการทำหน้าที่ธุรกิจสถาบันการเงินได้ต่อไปหรือไม่

นอกจากนี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ยังได้มอบหมายไอแบงก์ เร่งประสานงานกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแห่งอื่นๆ ว่าจะมีแผนงานส่วนใดบ้างที่จะใช้ทรัพยากรร่วมกันได้ เพื่อ ลดต้นทุนการดำเนินงานของไอแบงก์ เช่น กระบวนการทำงาน ระบบไอที รวมถึงการตั้งสาขาที่ต้องไปดูในรายละเอียดว่าจำเป็นต้องมีสาขาจำนวนมากหรือไม่ และปิดสาขาที่ไม่จำเป็นเพื่อลดต้นทุนได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม แผนฟื้นฟูของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งมีความคืบหน้าไปอย่างมาก โดยเฉพาะบริษัท การบินไทย และเอสเอ็มอีแบงก์ ที่เริ่มมีทิศทางการดำเนินงานที่ดีขึ้น ขณะที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัท ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคม ที่แผนฟื้นฟูเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น