ฟิล์ม รัฐภูมิ อัด 100 ล้านส่งเพย์ออลลุยฟินเทค


นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร ผู้ก่อตั้ง บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า หลังจากเปิดให้บริการมาแล้ว 1 ปี บริษัทได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด สามารถคืนทุนได้ภายใน 7 เดือน จากปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท เตรียมเพิ่มไปเป็น 50 ล้านบาทเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น ขณะที่บริษัทเตรียมใช้งบประมาณลงทุน 100 ล้านบาทยกระดับการให้บริการโมบายเพย์เมนท์บนแอพพลิเคชั่น “เพย์ออล(PAYALL)” เพื่อรับกระแสฟินเทค เพื่อก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำตลาด ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคดิจิทัล

งบประมาณลงทุน แบ่งออกเป็นการใช้งบราว 60 ล้านบาทเพื่อพัฒนาระบบปฏิบัติการของแอพพลิเคชั่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น และอีก 40 ล้านบาท สำหรับการตลาดทั้งรูปแบบบีโลว์เดอะไลน์ (below the line) และอโบพเดอะไลน์ (above the line) เพื่อสร้างชื่อทำให้เป็นที่รู้จัก รวมถึงเกิดการใช้งานในวงกว้าง

ส่วนของการบริการปัจจุบันครอบคลุมทั้งการเป็นอีมาร์เก็ตเพลสมีร้านค้ากว่า 1,000 ร้านค้า สินค้ากว่า 1 แสนรายการ ข้อเสนอพิเศษชำระค่าสินค้าและบริการตามร้านอาหารและร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ ค่าสาธารณูปโภค ค่าตั๋วเครื่องบิน รวมถึงสินค้าจากเหล่าศิลปินดารา โดยล่าสุดยังได้เชื่อมระบบกับผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่าง ลาซาด้า โดยมีบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุดของบริษัทคือ ชำระค่าตั๋วเครื่องบินและช้อปปิ้ง รวมถึงเร็วๆ นี้ยังได้เตรียมเสริมบริการใหม่ ดูดวงกับหมอลักษณ์ฟันธง ขายประกัน เกม และบริการบัตรเดบิตเพย์ออล เรื่องนี้ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” กล่าวว่า

“จุดแข็งของเรามาจากการให้บริการแอพที่มีคุณภาพ มีความเสถียร มีระบบไอทีหลังบ้านที่ดีรองรับซึ่งมั่นจันได้ว่าระบบจะไม่ล่ม สำคัญสินค้าที่นำเข้ามาเป็นสินค้าที่แมสจริงๆ”

สำหรับโมเดลรายได้ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมการจ่ายเงิน (5 บาทต่อบิล) และส่วนแบ่งรายได้จากผู้นำสินค้ามาวางจำหน่าย รวมถึงค่าสมาชิกรายปี ปีละ 3,200 บาท ผู้ที่สมัครส่วนนี้จะสามารถสร้างรายได้โดยการรับส่วนลดและสะสมแต้มจากการซื้อสินค้า นำแต้มมาแลกเป็นรายได้ โดยแต้มสะสมจะเกิดได้จากทั้งการซื้อสินค้าและการแนะนำสมาชิกใหม่เข้ามาเพิ่ม

ทั้งนี้ เพย์ออล ดำเนินธุรกิจบริการทางการเงินผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น ควบคู่ไปกับระบบการบริหารงานเครือข่ายรูปแบบเอ็มแอลซี (มัลติ เลเวล คอนซูเมอร์) โดยปัจจุบัน ยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมีอยู่ราว 1 แสนครั้ง มีเงินหมุนเวียนเพื่อใช้จ่ายในระบบกว่า 50 ล้านบาทต่อเดือน และแนวโน้มคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2 เท่าทุกเดือน

ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าว่า สิ้นปี 2559 จะมียอดดาวน์โหลดไม่น้อยกว่า 2 แสนครั้ง และเพิ่มไปแตะ 1 ล้านครั้งภายใน 2 ปี ขณะที่รายได้ สิ้นปี 2559 ตั้งเป้าไว้ที่ 300-400 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 300% โดยมีสัดส่วนลูกค้าเป็นแบบใช้งานแอพพลิเคชั่นทั่วไป 60% สมาชิกรายปี 40% แบ่งตามพื้นที่มาจากกทม. 60% ต่างจังหวัด 40%

เครดิต : กรุงเทพธุรกิจ