3วิกฤติความคิดSMEsไทยแบบเก่าๆ ที่คอยฉุดธุรกิจดิ่งลงเหว


เชื่อว่า SMEs หลายๆคนคงเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมเราก็ทำธุรกิจมานานและก็เชี่ยวชาญในสินค้ามากที่สุด แต่ทำไมถึงยังอยู่แค่นี้ (แนะนำให้หันกลับมามองที่วิธีคิดและการทำงานว่าคุณเป็นแบบนี้รึปล่าว)

  1. เชื่อว่าตัวเองเก่ง มั่นใจว่าสิ่งที่ทำดีที่สุด เชื่อในความสำเร็จครั้งเก่า

สิ่งนี้ถือเป็นอุปสรรคที่ร้ายแรงมากของSMEsไทย เปลี่ยนเถอะความคิดแบบนี้ เราต้องปรับตัวให้ทันความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ต้องเปลี่ยนวิธีขายใหม่ในเชิงรุก มันไม่มีแล้วยุคที่พอถึงเวลาเปิดร้าน แล้วจะมานั่งรอลูกค้าอย่างเดียว ทำธุรกิจยุคนี้ต้องวิ่งหาโอกาส ลองมองดูว่าจะวิธีไหนที่ทำให้เราสามารถไปเจอลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้บ้าง เพราะธุรกิจยุคนี้มีการพัฒนาปรับตัวอย่างรวดเร็ว เราต้องหัดวิ่งหาลูกค้า ไม่ใช่จะรอลูกค้าวิ่งมาหาเรา SMEsไทยต้องไม่คิดว่าสิ่งที่เราทำมันดีที่สุด ให้มองเป็นความท้าทาย พยายามคิดว่านอกเหนือจากการขายแบบเก่าๆแล้วเราจะสามารถขายแบบอื่นได้มั้ยและสิ่งนั้นต้องทำให้เราสบายขึ้น กำไรเพิ่มขึ้น”

  1. พุ่งไปที่ลูกค้าอย่างเดียว โดยลืมให้ความสำคัญกับบุคลากรและทรัพยากร

จริงอยู่ที่ลูกค้าคือคนสำคัญ แต่สำคัญกว่าคือต้องไม่ลืมลงทุนกับคนของคุณด้วย “Employees come first” เป็นสิ่งที่สำคัญของSMEsยุคนี้ เราต้องลงทุนกับคนของเรา อย่าอ้างว่าต้นทุนน้อย ไม่อยากจ้างคนเยอะ ถ้าไม่อยากจ้างคนเพิ่มก็ควรหันกลับมามองว่าจะทำยังไงกับคนที่มีอยู่ ทำไงให้พวกเขาเกิดศักยภาพแล้วแสดงคุณค่าออกมาให้มากที่สุด ถ้าคุณจะมองเรื่องคนเป็นเพียงแค่หน่วยงานที่คอย Support หรือเป็นแค่องค์ประกอบแต่ไม่ใช่แกนหลักของธุรกิจ นั่นหมายถึงคุณกำลังหลงทางและธุรกิจคุณก็กำลังเผชิญความเสี่ยง เราต้องส่งต่อศักยภาพที่เรามีให้กับคนของเราด้วย อย่าหวงความรู้และอย่างหวงเงินในการเทรนคน เพราะเมื่อไหร่ที่คุณส่งความรู้ออกไป ก็หมายถึงการระดมความคิดและประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น

  1. ไม่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม

คุณต้องปรับตัวรับกับสิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้น การทำงานของSMEsยุคใหม่ต้องคิดเยอะทำน้อยแล้วได้ผลลัพธ์ใหญ่แต่ยั่งยืน สมัยนี้ต้องทำอะไรแล้วท้าทายความคิด ตัวอย่างเช่น คุณทำขวดนมขาย ถ้าเราจะรอขายได้แบบยุคเก่าๆก็ต้องรอให้เขาใกล้คลอดหรือคลอดก่อนถึงจะขายได้ แต่ ในยุคนี้คุณต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะทำยังไงให้ลูกค้าซื้อขวดนมคุณก่อนเวลา นั่นคือการใช้เทคโนโลยีที่มีมากมายเข้ามาช่วย เช่นการไปขายในออนไลน์ แต่แค่ในออนไลน์อาจไม่ได้การันตีว่าคุณจะขายได้ซะทีเดียว คุณต้องมองหา Partner ร่วมด้วย เช่นใน Lazada มีคนขายชุดคลุมท้อง เราก็ไปจับมือจัดโปรโมชั่นร่วมกับเขา อย่างการขายชุดคลุมท้องแถมฟรีขวดนม แต่ในความเป็นจริงคือเราได้ Markup ราคาไว้หมดแล้ว ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยSMEsในเรื่องการกระจายสินค้า การโฆษณา การสร้างแบรนด์ ที่สำคัญคือทำให้คุณได้ฝึกวิธีคิดทำโปรโมชั่นแบบต่างๆด้วย ***SMEsยุคนี้สำคัญคือต้องมีเพื่อน นั่นก็คือPartnerและConnection

วิเคราะห์โดย นราวิทย์ นาควิเวก

CEOบริษัทเอ็กเซลเลนท์ พีเพิล จำกัด

Strategic Partner & Consultant บริษัท พีเพิลแวลู่ร์ จำกัด

เรียบเรียงโดย Smart SME