เยี่ยมเยือน “ต้นสนสามต้น” โดยกษัตริย์ไทยทรงปลูก….ณ วัดพระใหญ่แห่งคามากุระ


  ไดบุตสึ หรือพระใหญ่แห่งคามากุระ หรือที่คนไทยเรียกแบบไทยๆ ว่าหลวงพ่อโต (ได หมายถึงใหญ่ บุตสึ ก็คือพระพุทธ) มีชื่อจริงว่าพระอมิตาภพุทธเนียวยุระอิ (Amida Nyoyurai) แห่งวัดโคโตะกุอิน เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ของญี่ปุ่น อายุเวลาราวกลางศตวรรษที่ 13 ก็ร่วม 800 ปีมาแล้ว (ตอนนั้นยังไม่มีอาณาจักร “สยาม” ใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากจะมโนขึ้นมาเอง)

พระพุทธรูปองค์นี้มีตำนานเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธื์มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบันทึกกล่าวไว้ว่าราวปี ค.ศ. 1498 หรือ พ.ศ. 2041 (ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 หรือในหนังสุริโยไท รับบทโดย พิศาล อัครเศรณี) เกิดคลื่นสึนามิพัดถล่มชายฝั่งเมืองคามากุระจนบ้านเมืองวัดวาอารามพังพินาศสิ้น เหลือเพียงพระพุทธรูปองค์นี้ที่ยังตั้งติดฐานอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ จึงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวญี่ปุ่นอย่างยิ่ง

ผมมาที่นี่แล้วได้อะไรมากกว่าแค่มาสักการะหลวงพ่อไดบุตสึ เพราะที่วัดโคโตะกุอินแห่งนี้ยังมีประวัติศาสตร์เชื่อมโยงกับเมืองไทยเราอย่างแนบแน่น (แต่เหลือเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ แม้จะเคยไปเที่ยวที่นี่แล้วก็ตาม มักไม่ค่อยรู้หรือไม่สนใจจะรู้ เพราะอยากรีบๆ ถ่ายรูป แล้วรีบๆ ไปชอปปิ้งต่อ) นั่นก็คือต้นสนสามต้นที่นี่ ซึ่งทรงปลูกโดยบุคคลสำคัญของไทยสามพระองค์

ต้นแรก เดิมนั้นทรงปลูกโดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฏราชกุมาร (หรือต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว) เมื่อคราวเสด็จกลับจากอังกฤษ ที่ทรงศึกษาวิชาประวัติศาสตร์อยู่ที่ออกซ์ฟอร์ด แต่ทรงพระประชวรด้วยพระโรคอันตะ (ไส้ติ่ง) อักเสบ จึงทรงไม่ได้รับปริญญา และต้องเสด็จนิวัตพระนครตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระบรมชนกนาถ

โดยเสด็จจากอังกฤษข้ามมหาสมุทรแอตแลนติค ถึงเมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา แล้วเสด็จข้ามประเทศสหรัฐอเมริกามาถึงเมืองซานฟรานซิสโก จากนั้นก็เสด็จข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมาถึงประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะเสด็จแวะฮ่องกง แล้วจึงเสด็จมาถึงพระนคร

ในระหว่างที่เสด็จญี่ปุ่นนั้น ทรงตั้งพระทัยไว้เลยว่าต้องเสด็จมาที่วัดโคโตะกุอินเพื่อถวายสักการะหลวงพ่อไดบุตสึ ในครั้งนั้นข้าราชบริพารญี่ปุ่นยุค “ปฏิวัติเมจิ” ได้ถวายการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ และทรงปลูกต้นสนไว้หนึ่งต้นเมื่อวันที 27 ธันวาคม พ.ศ. 2445

หลายปีต่อมาต้นสนที่ทรงปลูกได้ตายลง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว เป็นผู้ปลูกต้นใหม่ขึ้นแทนที่ต้นเดิมในตำแหน่งเดียวกัน เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ต้นสนต้นนี้จึงดูมีขนาดเล็กที่สุด

S__9420841

ส่วนต้นทางขวาของภาพ ทรงปลูกโดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เยือนวัดโคโตะกุอิน เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2474 หรือ 29 ปีหลังการเสด็จเยือนของเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ

เป็นที่น่าสังเกตว่าทั้งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธฯ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ล้วนทรงฉลองพระองค์ด้วยชุดยูคาตะทั้งสิ้น

S__9420843

ต้นที่สาม อยู่เยื้องไปด้านหลังของสองต้นแรก ทรงปลูกโดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฏราชกุมาร ในวโรกาสที่เสด็จเยื่อนวัดโคโตะกุอิน เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2530

คนไทยนิยมไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเป็นที่เอิกเกริก ใครอ่านบทความนี้แล้วถ้ามีโอกาสไปเยือนวัดโคโตะกุอิน หรือสักการะหลวงพ่อไดบุตสึ ก็ลองๆ ดูต้นสนสามต้นที่ว่าด้วยนะครับ