“สมคิด”มั่นใจ GDP ปีนี้โต 3.2 % เร่งยกระดับ SMEsภาคเกษตร


ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมมอบหมายนโยบายผู้บริหารกระทรวงการคลังว่า มั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) อาจขยายตัวประมาณร้อยละ3.2จึงไม่จำเป็นต้องออกมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐบาลเหลือเวลาบริหารงานเพียง 1 ปีเท่านั้นจึงต้องปรับองค์กรให้เป็น 4.0 ส่วนการส่งออกของไทยกำลังเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ต้องเร่งปฏิรูปอุตสาหกรรมเพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น
เฉพาะธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ต้องเดินหน้าโครงการ 1 ตำบล 1 เอสเอ็มอีภาคเกษตร เพื่อช่วยพัฒนาเกษตรกรให้เปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืชหลากหลายเน้นการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ มาสร้างตลาด สร้างมูลค่าเพิ่ม เน้นแปรรูปยกระดับผลผลิต และค้าขายผ่านอินเทอร์เน็ต เพิ่มรายได้ จากนั้นต้องอาศัยชาวบ้านในชุมชนเป็นเครือข่ายส่งวัตถุดิบและสร้างตลาดร่วมกันผ่านการตั้งกองทุนร่วมลงทุนของธ.ก.ส.เพื่อให้เอสเอ็มอีภาคเกษตรมีทุนหมุนเวียนเพิ่มอีกด้านหนึ่ง นอกจากสินเชื่อเอสเอ็มอีภาคเกษตร ซึ่งปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 20,000 ล้านบาท รวมทั้งมอบให้ ธ.ก.ส.จัดงานครบรอบ 50 ปี ภายใต้เกษตรไทย 4.0 สร้างมูลค่า สร้างไทย เพื่อให้การส่งเสริมเกษตรแพร่กระจายมากขึ้น
ส่วนกรณีที่เวิลด์ อีโคโนมิกส์ ฟอรั่ม (WEF) เปิดเผยผลสำรวจและจัดทำ WEF Gobal Competitiveness Report 2016-2017 เพื่อรายงานความสามารถในการแข่งขัน 138 ประเทศทั่วโลก พบว่า ภาพรวมขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีการค้าโลกปีพ.ศ. 2559-2560 ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 34 ของโลก ลดลงจากปีที่แล้วที่อยู่ที่อันดับ 32 โดยมีคะแนน 4.6 เท่ากัน จากคะแนนเต็ม 7 คะแนน และแม้ว่าไทยจะลดอันดับลงมา 2 อันดับ แต่เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศในเอเชียถือว่ายังอยู่ในระดับคะแนนเท่าเดิม โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ปรับเพิ่มขึ้นมา 14 คะแนน ด้านการศึกษาคะแนนปรับลดลงมาก ทำให้ต้องเร่งแก้ปัญหา ส่วนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไทยปี พ.ศ. 2560 หากเงินลงทุนออกสู่ระบบจำนวนมากแล้วคะแนนด้านโครงสร้างพื้นฐานคงจะปรับดีขึ้น