ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
1.เอาใจใส่
การขาดความเอาใจใส่จะทำให้เวลาพรีเซนต์งานกับหัวหน้า ลูกค้า รวมถึงผู้เข้าร่วมเกิดข้อโตแย้งในเรื่องที่คุณกำลังพูด โดยกุญแจสำคัญคือต้องระบุให้ผู้เข้าฟังได้รับรู้ว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ซึ่งแบล็คกราวน์ของผู้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์การทำงาน, ความสนใจ และช่วงอายุ สามารถนำมาเป็นข้อมูลในการเรียนรู้ เช่น ชอบเห็นรูปภาพหรือตัวหนังสือบนโปรเจ็กเตอร์ขณะนั่งฟังพรีเซนต์ เหล่านี้อาจมองเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็เป็นประโยชน์เพื่อหาวิธีการถ่ายทอดออกมาให้ดีที่สุด
นอกจากนี้ยังรวมถึงปัจจัยอื่นๆที่คุณควรเอาใจใส่ เช่น ห้องประชุม ที่ผู้เข้าร่วมชอบนั่งฟังมากกว่าการทำกิจกรรมที่ต้องมีการเคลื่อนไหว หรืออาจจะชอบเคลื่อนไหวมากกว่าการนั่งฟังบรรยายอย่างเดียวก็เป็นไปได้หมด
2.สร้างการมีส่วนร่วม
สร้างการมีส่วนร่วมให้กับผู้ฟังในขณะที่คุณกำลังพรีเซนต์อยู่ ซึ่งจะช่วยสร้างประโยชน์ให้ผู้ฟังเข้าใจกับเรื่องราวที่คุณเสนอได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยการมีส่วนร่วมคือการสนับสนุนและพิสูจน์ให้เห็นถึงสิ่งที่พวกเขาจะได้จากการนำเสนอของคุณ ที่สำคัญกว่าควรเปิดโอกาสให้มีการซักถาม แบ่งปันประสบการณ์ในช่วงการสนทนา เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการปฏิสัมพันธ์และทำให้ผู้เข้าร่วมรับฟังอย่างตั้งใจมากขึ้น
3.เป็นผู้ฟังที่ดี
การพูดที่มีประสิทธิภาพคือต้องมาจากการเป็นผู้ฟังที่ดีก่อน โดยดูจากองค์ประกอบภาพรวมของผู้พูด เช่น การใช้คำ,โทนเสียง,ภาษากาย และบุคลิก นำมาปรับใช้เมื่อถึงเวลาที่ตนเองต้องพรีเซนต์ ซึ่งจะรู้ว่าต้องเพิ่มหรือลดในส่วนไหน เพื่อให้เหมาะสม รู้ถึงความพอดี
4.ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย
ในขณะที่คุณกำลังเตรียมสไลด์สำหรับการนำเสนอ คุณอาจโดนกำดักในเรื่องที่ว่าคุณอยากใส่เนื้อหาลงไปในสไลด์เยอะๆ แต่ใช่ว่าสไลด์เยอะจะดีเสมอไป คุณควรหลีกเลี่ยงและไม่ควรใส่ข้อความลงไปเยอะๆ เพราะจะช่วยให้การพรีเซนต์งานน่าสนใจขึ้นมาเลย เหมือนกับการเอาเอกสารใส่ลงไปให้อ่าน ยิ่งหากผู้ฟังทักท้วงขึ้นมาขณะคุณพรีเซนต์งาน มันยิ่งบั่นทอนจิตใจคุณเข้าไปอีก
5.แสดงออกทางภาษากาย
ภาษากายของผู้พูดเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในเรื่องที่ต้องการเน้นย้ำ อีกทั้งยังเสริมสร้างความจริงใจและความกระตือรือร้นในตัวผู้พูดอีกด้วย ซึ่งการใช้ภาษากายอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างแรกต้องเริ่มจากการสบตาเพื่อสร้างความผูกพันกับผู้ฟัง แล้วเวลาที่มีการพูดถึงคำกริยา ควรออกท่าทางของร่างกายตามไป สุดท้ายควรเดินไปรอบๆพื้นที่ของการพรีเซนต์เมื่อมีการเปลี่ยนหัวข้อหรือเดินไปหาผู้ฟังเมื่อมีคำถาม
6.ฝึกฝน ฝึกฝน และฝีกฝน
ทั้งหมดที่กล่าวมา คุณต้องมีการฝึกฝนก่อนพรีเซนต์จริง จะลองฝึกหน้ากระจกก็ไม่ว่ากัน หรือคุณอาจจะบันทึกวิดีโอลองพูดหน้ากล้อง แล้วนำมาดูมาต้องเพิ่มเติมหรือปรับปรุงในส่วนใดบ้าง
หากคุณมีการเตรียมตัว ทำการบ้านก่อนที่จะทำการพรีเซนต์ เชื่อได้เลยสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อสารกับผู้ฟังให้รับรู้ เข้าใจในเรื่องที่นำเสนอย่อมมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน