“กุญแจ 3 ดอก” ไขสู่ประตูส่งออกมาเลเซีย


รู้หรือไม่? อะไรคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้การส่งออกไปมาเลเซียประสบผลสำเร็จ ?

“มาเลเซีย” เคยเป็นเมืองขึ้นของอาณานิคมอังกฤษมากกว่าร้อยปี จึงได้รับอิทธิพลทางด้านระบบการเมือง กฎหมาย โครงสร้างผังเมือง ระบบโครงสร้างสาธารณูปโภค รวมถึงค่านิยมที่โอนเอียงไปยังสินค้าหรือแบรนด์จาก ตะวันตกหรือสไตล์ยุโรป หากสินค้าที่มีดีไซน์ที่มีความเป็นตะวันตก เช่น บรรจุภัณฑ์ การตกแต่งร้านอาหาร รวมถึงเครื่องใช้ตกแต่งบ้าน จะได้รับความนิยมเป็นอย่างดีในกลุ่มผู้บริโภคที่มีกําลังซื้อและต้องการแสดงถึงความมี รสนิยมและมีฐานะ และถึงแม้ภาษามาลายูจะเป็นภาษาราชการหลักซึ่งชาวมาเลเซียทุกคนต้องพูดได้ แต่รัฐบาล มาเลเซียให้ความสําคัญต่อภาษาอังกฤษมากเช่นกัน ดังนั้น บริษัทไทยจะต้องให้ความสําคัญกับการฝึกฝนทักษะด้านภาษาอังกฤษ เพื่อให้สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสารและเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการชาวมาเลเซียได้ นอกจากนี้ มาเลเซียยังเป็นประเทศที่มีหลายเชื้อชาติ โดยเฉพาะกลุ่มมาเลย์ จีน และอินเดีย ทําให้เกิดความหลากหลายทางด้านศาสนา วัฒนธรรมและประเพณี ดังนั้น หากบริษัทใดสามารถผลิตสินค้าหรือบริการที่ เหมาะกับเชื้อชาติของกลุ่มเหล่านี้ได้ย่อมมีความได้เปรียบทางการตลาดเนื่องจากฐานผู้บริโภคก็จะครอบคลุมได้ทุก กลุ่มเชื้อชาติ เช่น หากสินค้าส่งออกของไทยมายังมาเลเซียเป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ผู้ประกอบการไทยก็ จะต้องติดเครื่องหมายฮาลาลที่รับรองโดยคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยเพื่อให้ชาวมุสลิมที่เป็นประชากรส่วนใหญ่สามารถบริโภคได้ด้วยรวมทั้งกลุ่มเชื้อชาติอื่นๆ

         หากผู้ประกอบการต้องการที่จะส่งออกสินค้าไปยังมาเลเซีย สิ่งที่จําเป็นต้องศึกษาและทํา ความเข้าใจตลาดเพื่อนําสินค้าเข้าสู่ตลาดมาเลเซียได้เป็นผลสําเร็จ นั่นคือ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษและความเข้าใจในวัฒนธรรมของชาวมาเลเซีย

กุญแจดอกแรก คือการหาพันธมิตรทางธุรกิจที่ดี การมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีอาจถือได้ว่าเป็นหัวใจสําคัญของการสร้างความสําเร็จในการทําธุรกิจ หากคู่ ค้าของคุณไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ควรทําการศึกษาโดยการนัดพบปะพูดคุยกันโดยตรงเพื่อศึกษา เรียนรู้ แลกเปลี่ยนข้อมูล/ข้อเสนอ   และทําความเข้าใจในการทําธุรกิจร่วมกัน    โดยคุณควรติดต่อกับหลายๆบริษัทเพื่อจะได้ ศึกษาและเปรียบเทียบรายละเอียดต่างๆสําหรับใช้ในการประกอบการตัดสินใจ อีกประการหนึ่งก็คือคุณจะต้อง อย่าลืมที่จะทําการตรวจสอบสถานะของบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในมาเลเซีย ผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นๆ รวมถึง รายงานงบการเงินเพื่อดูความมั่นคงของบริษัท โดยสามารถติดต่อขอข้อมูลดังกล่าวได้จากหน่วยงานรับผิดชอบ การจดทะเบียนนิติบุคคล หรือเรียกว่า Suruhanjaya Syarikat Malaysia (SSM) ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายสําหรับการ เข้าถึงข้อมูลดังกล่าว       อย่างไรก็ตามข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์และทําให้ผู้ประกอบการไทยรับรู้ถึงสถานะของคู่ ค้าได้ระดับหนึ่งซึ่งจะช่วยประกอบการพิจารณาในการทําธุรกิจร่วมกัน   กุญแจดอกที่ 2 คือ ต้องมีความอดทนและความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจ การทำธุรกิจในมาเลเซียต้องใช้ความมุ่งมั่นระยะยาว บ่อยครั้งที่ธุรกิจมักจะดําเนินการอยู่บนพื้นฐานของ ความสัมพันธ์ส่วนตัว และคุณจําเป็นต้องลงทุนด้านเวลาและค่าใช้จ่ายเพื่อมาเยือนอย่างสม่ําเสมอและพัฒนาสาย สัมพันธ์/ไมตรีจิตรกับลูกค้า ตัวแทน และเจ้าหน้าที่ติดต่อภาครัฐบาลและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

 

กุญแจดอกที่ 3 การวางแผนธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

เมื่อคุณสามารถหาพันธมิตรธุรกิจในมาเลเซียได้และสามารถส่งออกสินค้ามายังตลาดมาเลเซียได้แล้ว คุณ ก็ควรมีการวางแผนการตลาดที่ชัดเจนทั้งในระยะสั้นและระยาว และร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจจัดทํากลยุทธ์ การส่งเสริมการขายเป็นระยะๆ      เพื่อกระตุ้นยอดขายและรักษาฐานลูกค้าให้ซื่อสัตย์ต่อสินค้าของคุณในระยะยาว  ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์