4 เรื่องอยากเห็นของบิล เกตต์ ในทศวรรษหน้า


ย้อนกลับไปเมื่อปี 1969 นีล อาร์มสตรอง และบัซซ์ อัลดริน เป็นมนุษย์คนแรกที่ก้าวลงเหยียบบนพื้นผิวดวงจันทร์ เหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็นการสร้างมูลค่าการทำงานให้กับประธานธิบดีเคนเนดี้กับความท้าทายที่จะทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วง ซึ่งบิล เกตส์ ได้เขียนลงใน Blog post เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประธานธิบดีเคเนดี้กำลังมองหาแรงบันดาลใจให้กับประเทศด้วยความฝันที่ยิ่งใหญ่ เกิดที่ใครจะทำได้ จึงกลายเป็นที่มาของวลี “moonshot” เกิดขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงแค่การไปเหยียบดวงจันทร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรมอย่าง “ดาวเทียม” ที่ทำให้มนุษย์รู้ถึงสภาพอากาศของโลก ตลอดจนช่วยในเรื่องการสื่อสารข้ามประเทศให้เป็นไปอย่างสะดวกมาจนถึงทุกวันนี้

บทบาทของรัฐบาลขณะนั้นคือการสร้างนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ โดยบิล เกตส์ ชี้ให้เห็นว่า ช่วงนั้นคอมพิวเตอร์มีราคาแพงมากในปี 1960 จนกระทั่งรัฐบาลสหรัฐฯได้มีการศึกษาวิจัยนำไมโครชิปและอินเทอร์เน็ตเข้ามา และทำให้ตัวเขากลายเป็นบริษัทผู้นำทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ชั้นนำในสหรัฐฯ ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ มีไอเดียใน 4 เรื่องที่รัฐบาลสหรัฐควรจะพยามยามทำให้สำเร็จภายในทศวรรษหน้า หากยังต้องการสร้างแรงบัลดาลใจในค้นพบนวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้

1.พลังงานที่ยั่งยืน ราคาไม่แพง

หลายบริษัทมีความพยายามที่จะพัฒนาแหล่งพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโซลาร์ รูฟ จากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ไม่เพียงใช้ภายในที่อยู่อาศัย แต่ยังมีแนวคิดจะนำไปใช้กับรถยนต์อีกด้วย ซึ่งในปี 2015 มี 21 ประเทศรวมถึงสหรัฐฯ มีการใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าวิจัยด้านพลังงาน โดยบิล เกตต์ เห็นว่าการที่รัฐบาลแต่ละประเทศมีการใช้เม็ดเงินในเรื่องการวิจัยพลังงานอย่างหนักหน่วง จะเป็นความได้เปรียบของการเดินก้าวต่อไปข้างหน้า และแต่ละบริษัทสามารถใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายเหนือกว่าคู่แข่ง

2.การรักษา HIV และโรคเกี่ยวกับระบบประสาท

ในแต่ละปีมีประชากรมากกว่า 1 ล้านคนเสียชีวิตจากโรคเอดส์ ซึ่งมองดูแล้วเป็นตัวเลขมหาศาล โดยที่ผ่านมานั้นที่ช่วยลดการเสียชีวิตไม่ให้มากไปกว่านี้ คือยาต้านไวรัสที่ช่วยชะลอการแพร่กระจายของเชื้อโรคภายในร่างกายของผู้ป่วย

สำหรับเรื่องนี้ บิล เกตต์ แสดงความคิดเห็นว่า ความคืบหน้าล่าสุด ผมเชื่อว่าผู้นำโลกสามารถคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ที่มีประสิทธิภาพภายในทศวรรษหน้าที่กำลังมาถึง ซึ่งจะยุติโรคเอดส์อย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาตัวยาที่สามารถชะลออาการของโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์ ด้วยความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ หวังว่าจะค้นพบการรักษาในเร็วๆนี้

3.การป้องกันโรคระบาดในอนาคต

ย้อนหลับไปในปี 2014 ทวีปแอฟริกามีการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบล่า สร้างความหวาดระแวงไปทั่วโลก โดยบิล เกตต์ มองว่า มนุษย์มีความเสี่ยงต่อการติดโรค และแพร่กระจายไปสู่คนอื่นๆอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีโอกาสจะเกิดขึ้นอีกครั้งในทศวรรษถัดไป โดยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ถือว่ามีส่วนสำคัญในการตรวจหาโรค วิจัย พัฒนา รวมถึงหาวิธีรักษาในช่วงระยะเวลาที่โรคระบาดเกิดขึ้น

4.เครื่องมือการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับเด็กนักเรียนทุกคน

การมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าจะช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างคุณครูกับนักเรียนในช่วงการเรียนการสอน ข้อดีของการมีเทคโนโลยีคือสามารถเห็นผลการทดสอบของนักเรียนได้ทันที รู้ถึงฟีดแบ๊คว่าเป็นอย่างไร สร้างการเรียนรู้ในลักษณะส่วนบุคคลมากขึ้น สามารถเปิดดูตำรา บทเรียนต่างๆตามสถานที่ใดๆก็ได้ ในเรื่องนี้ บิล เกตต์ แสดงความคิดเห็นว่า รัฐบาลควรเตรียมงบประมาณหาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในเรื่องของการศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการที่ครูและนักเรียนได้ใช้เครื่องมือใหม่ๆจะสร้างพลัง มีความสนใจในการเรียน

บิล เกตต์ ทิ้งท้ายในเรื่องนี้ว่า การศึกษาที่ยอดเยี่ยมสามารถคนในแต่ละเจอเนเรชั่นกลายเป็นนักคิดและนักประดิษฐ์ต่อไปในวันข้างหน้า