ประหยัด อดออม ตามรอยพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้เป็นแบบให้กับปวงประชา


ประหยัด อดออม..ตามรอยพ่อหลวง

ที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าคนในยุคสมัยนี้โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ใช้จ่ายเงินกันอย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งสาเหตุก็มาจากหลายปัจจัย ทั้งในเรื่องของค่าครองชีพที่สูงขึ้น ของใช้อุปโภคบริโภคที่ล่อตาล่อใจจนต้องเสียเงินไปอย่างไม่ทันได้ตั้งสติ แต่ถ้าเรารู้จักพอเพียงน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันของตัวเอง เริ่มเก็บ เริ่มออมตั้งแต่ในวัยเรียน วัยทำงาน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในภายภาคหน้าเมื่อยามแก่เฒ่า

ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นตัวอย่างของการรู้จักอดออม โดยพระองค์ทรงมีสมเด็จย่าผู้เป็นต้นแบบแห่งชีวิต ในการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง รู้จัก ประหยัด อดออม ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

1. โดยเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ได้กราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยาน เพราะเพื่อนคนอื่นๆ เขามีกัน สมเด็จย่ารับสั่งตอบว่า “ลูกอยากได้ก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิ หยอดกระป๋องวันละเหรียญ ได้มาก ค่อยเอาไปซื้อ”

2. เมื่อพระชนม์เพียง 8 พรรษา ในหลวงทรงซื้อกล้องถ่ายรูปกล้องแรกด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์

3. ในหลวงทรงได้ค่าขนมอาทิตย์ละครั้ง กระนั้นพระองค์ก็ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไปขาย และเมื่อทรงได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผักมาปลูกเพิ่ม

4. ความมัธยัสถ์ถือเป็นคุณูปการสำคัญที่ทำให้ในหลวงทรงเรียนรู้หลักความพอเพียงสมถะมาตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ จนกระทั่งสมเด็จย่ามีพระดำรัสในเวลาต่อมาว่า “ในสวนจิตรเนี่ย คนที่ประหยัดที่สุดคือ ในหลวง ประหยัดที่สุดทั้งน้ำ ทั้งไฟ เรื่องฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยไม่มี”

5. ในหลวงทรงได้รับการอบรมให้รู้จัก “การให้” โดยสมเด็จย่าทรงตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า “กระป๋องคนจน” เอาไว้ หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูก “เก็บภาษี” หยอดใส่กระปุกนี้ 10 เปอร์เซ็นต์ ทุกสิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุม เพื่อถามว่าจะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำอะไร เช่น มอบให้โรงเรียนคนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้าหรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน

6.ตราบจนเสด็จขึ้นครองราชย์ ในเรื่องของใช้ส่วนพระองค์ พระองค์ก็ยังทรงไม่เห็นความจำเป็นว่าต้องใช้ของแพง หรือต้องเป็นแบรนด์เนม ไม่โปรดสวมเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของมีค่าต่างๆ ยกเว้นนาฬิกา โดยนาฬิกาที่พระองค์ใส่นั้นก็เป็นเพียงนาฬิกาที่มีไว้สำหรับบอกเวลาเท่านั้น

7. เรื่องหนึ่งที่มีคนพูดกันแพร่หลาย แต่ความจับจิตจับใจก็ไม่เคยเสื่อมคลาย นั่นคือเรื่องหลอดยาสีพระทนต์ที่พระองค์ทรงใช้จนแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอดที่ปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด ซึ่งเป็นผลจากพระองค์ทรงใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีด และกดเป็นรอยบุ๋มนั่นเอง

8. พระองค์ไม่โปรดการใช้ปากการาคาแพง ในปีหนึ่งๆ ทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่งเท่านั้น โดยใช้เดือนละแท่งจนกุด

9. อาจพูดได้ว่า การถวายของแด่ในหลวงนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นของแพง อะไรที่มาจากน้ำใจจะทรงใช้ทั้งนั้น

10. ในหลวงทรงงานด้วยพระองค์เองทุกอย่าง แม้กระทั่งการโรเนียวกระดาษที่จะนำมาให้ข้าราชการที่เข้าเฝ้าฯถวายงาน

11. ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์อเมริกาลงข่าวลือเกี่ยวกับพระองค์ว่าแซ็กโซโฟนที่ทรงอยู่เป็นประจำนั้นทำด้วยทองคำเนื้อแท้บริสุทธิ์ จึงมีพระราชดำรัสว่า “อันนี้ไม่จริงเลย สมมุติว่าจริงก็จะหนักมาก ยกไม่ไหวหรอก”

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับปวงประชา ซึ่งหลายๆคนยังคงหลงระเริงกับการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยจนสุดท้ายบั้นปลายชีวิตไม่มีเงินเหลือเก็บยามแก่เฒ่า เพราะฉะนั้นควรรู้จักประหยัดอดออมตั้งแต่ในวัยเรียน วัยทำงาน ใช้จ่ายแต่สิ่งที่จำเป็น ไม่ฟุ่มเฟือย เพียงเท่านี้คุณก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีเพียงแค่รู้จักประหยัดอดออมเพียงเท่านั้นเอง

[บทความทั้งหมด] | [คลิปรายการทั้งหมด]