องค์การสหประชาชาติหรือ
UN ได้กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็น “
วันดินโลก” เพื่อสดุดีพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงตระหนักในการพัฒนาดินอย่างต่อเนื่องและยาวนาน
จากการประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติในนิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ในหัวข้อ Election of fourteen members of the Human Rights Council [item 114 (d)]. [The General Assembly will also pay tribute to the memory of His Majesty King Bhumibol Adulyadej, late King of Thailand.] ได้มีการประชุมวาระพิเศษ เพื่อสดุดีและถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นายปีเตอร์ ทอมสัน ประธานสมัชชาสหประชาชาติเริ่มกล่าวสดุดีเป็นคนแรก โดยแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียครั้งใหญ่ของประชาชนชาวไทย และกล่าวสดุดีถวายพระเกียรติ โดยนำแนวพระราชดำริของพระองค์มากล่าวต่อที่ประชุมว่า สมควรยกย่อง และประชาคมโลกควรน้อมนำมาปฏิบัติตาม และเชิญชวนให้ทุกคนยืนสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อแสดงความอาลัย ซึ่งในคำกล่าวสดุดีนั้น นายทอมสัน ระบุว่าพระองค์ทรงครองราชย์มายาวนานถึง 70 ทรงได้รับการยกย่องจากประชาชนชาวไทยและนานาประเทศจากความวิริยะอุตสาหะในการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อประเทศชาติและประชาชนมาโดยตลอด ทรงมีพระราชปณิธานที่จะปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกร
นายทอมสัน กล่าวต่อว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงได้รับการทูลเกล้าถวายรางวัลมากมายเช่น รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์อาทิจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีพี) ทรงเป็นผู้นำในการดูแลดินและทรัพยากรธรรมชาติในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ทำให้สหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์เป็น “วันดินโลก” โดยได้ขอให้ที่ประชุมยืนถวายความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
จากนั้นนายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ ขึ้นกล่าวเป็นคนต่อมา โดยนายบัน กล่าวสรรเสริญพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้านความคิดสร้างสรรค์และมีมนุษยธรรม และทรงเป็นพลังในการรักษาเสถียรภาพ นำพาประเทศผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความยุ่งเหยิงและตึงเครียดทางการเมืองหลายครั้ง นอกจากนี้ยังทรงทรงทุ่มเทในพระราชกิจ เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งนายบันยังกล่าวสดุดีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่อการนำพาประเทศไทยและคนไทยทั้งชาติไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน และเน้นย้ำว่าโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จอันสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ซึ่งเป็นรางวัลสำคัญ และไม่เคยมีพระมหากษัตริย์พระองค์ไหนในโลกเคยได้รับทูลเกล้าฯ ถวายมาก่อน
นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนภูมิภาคต่างๆ ที่ต่างยกย่องพระปรีชาสามารถในการพัฒนา และเชิดชูหลักเศรษฐกิจพอเพียงว่า เป็นของขวัญที่ทรงพระราชทานให้ประชาชนชาวไทย ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี ตามด้วยเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ ก่อนปิดท้ายด้วยนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ
ทั้งนี้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ ย้อนความถึงเมื่อครั้งพระราชบิดาและพระราชมารดาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพบกันในสหรัฐฯ และพระองค์ทรงประสูติในเมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ “แม้พระองค์ประทับอยู่ที่นี่แค่ตอนยังเล็ก แต่การประทับของพระองค์ยังคงรู้สึกได้ในเคมบริดจ์” อ้างถึงจัตุรัสภูมิพลอดุลยเดช “หากคุณเดินผ่านจัตุรัสภูมิพลอดุลยเดช ไม่ใช่เรื่องผิดปกติใดๆเลย ที่คุณจะได้เห็นคนไทยเดินทางมากราบไหว้แสดงความเคารพ”