กาแฟ ยังคงเป็นธุรกิจเนื้อหอมของใครหลายๆ คนที่อยากมีร้านเป็นของตัวเอง แม้จะรู้ดีว่าการแข่งขันในหลายปีที่ผ่านมาเกือบจะเรียกได้ว่าเปิดกันแบบ ร้านชนร้าน รุ่งบ้าง ร่วงบ้าง ล้มหายตายจากตลาดบ้าง แต่ตราบใดที่ กาแฟยังคงเป็นศูนย์รวมความคลาสสิก ที่ให้คอกาแฟเสพรสชาติที่กลมกล่อม ลิ้มรส กลิ่นหอมแบบเฉพาะตัว กาแฟก็จะยังเป็นหนึ่งในธุรกิจเบอร์ต้นๆ ที่คนสนใจเป็นเจ้าของอยู่ดี
คุณยุวดี วรวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซำ บาย ดี จำกัด ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดาวคอฟฟี่ในประเทศไทย โดยการร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทดาวเฮือง (Dao Heuang Group) ผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดในประเทศลาว ที่เราคุ้นหูกันดีกับวลี “เอิ้น ดาว ก่ะได่” ภาษาลาวสุดฮิตในภาพยนตร์โฆษณาเปิดตัวที่ทำให้คอกาแฟรู้จัก แบรนด์ดาว ได้ตอบคำถาม 10 คำตอบ ที่จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจกาแฟ ได้หายสงสัย ว่าทำอย่างไรจึงจะปั้นแบรนด์กาแฟ…ให้เป็นดาว ดังต่อไปนี้
ยุทธศาสตร์แบบไหน ปั้นแบรนด์…ให้เป็นดาว
1. ประเทศไทย….ธุรกิจกาแฟ มีกี่แบบ?
สำหรับร้านกาแฟ ปัจจุบันในประเทศไทยสามารถแบ่งความต้องการในตลาดแบบกว้างๆ ได้เป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มแรก คือสร้างแบรนด์ของตัวเอง ในรูปแบบ Indy coffee shop หรือ Chain coffee shop
ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ ซื้อเฟรนไชส์จากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก ซึ่งตอนนี้ ดาว คอฟฟี่ สามารถ Supply ให้ได้ในทั้ง 2 รูปแบบ
2. แบบไหนดีstrong>….ถ้า SME อยากมีร้าน?
สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถเลือกได้ทั้ง 2 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับงบประมาณ และความต้องการของผู้ประกอบการ ซึ่งการสร้างแบรนด์เอง ก็มีข้อดีในเรื่องความยืดหยุ่นของธุรกิจ แต่การซื้อเฟรนไชส์ ก็เพิ่มศักยภาพของการเริ่มต้นธุรกิจได้ดีกว่า แต่ทั้งนี้ สิ่งแรกที่คุณต้องคำนึงถึง คือ ทำเลของร้าน จำเป็นจะต้องพิจารณาว่าผู้คนที่สัญจร (Traffic) ผ่านร้าน คาดว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ เนื่องจากลูกค้าต้อง Walk In เข้ามา หมายถึงโอกาสในการขาย กรณีที่สร้างแบรนด์เอง ต้องดูเรื่องสไตล์การตกแต่งร้าน ให้เป็นที่สนใจของลูกค้า
3. เตรียมตัวยังไง….ต้องมีอะไรบ้าง?
ถ้าตีกรอบเฉพาะในส่วนที่เป็น Function การทำกาแฟและเครื่องดื่ม ถ้าหากอยากได้กาแฟที่มีคุณภาพ เครื่องชงกาแฟจะอยู่ที่ราคาประมาณ 100,000 บาทขึ้นไป นั่นหมายถึงคุณจะได้เครื่องชงกาแฟที่มีแรงดันที่เหมาะสม ที่จะชงกาแฟได้อร่อย ส่วนอุปกรณ์ในการทำกาแฟอื่นๆ ก็จะมี เครื่องบดเมล็ดกาแฟ, เครื่องปั่นสมูธตี้ และควรมีตู้เย็นขนาดเล็กๆ ไว้แช่นม ปัจจุบัน บ้านเรายังคงนิยมดื่มกาแฟที่ใส่นมข้นเป็นส่วนใหญ่ โดยรวมแล้วงบก็อยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท
4. ต้นทุนประมาณ 300,000….แพงไปมั๊ย?
สำหรับการจะทำธุรกิจร้านกาแฟ ตอบว่า “ถ้าหากคุณขายกาแฟได้เกิน 80 แก้วต่อวัน ราคาต่อแก้วอยู่ที่ 50 –60 บาท ประมาณ 2 ปี คุณก็คืนทุนได้แล้ว เพราะฉะนั้นไม่มากเกินไป สาหรับร้านกาแฟที่มีคุณภาพ นอกจากทำเล ต้องดูสิ่งที่เกี่ยวเนื่องไปถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณด้วย นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ตอกย้ำว่า ถ้าหากคุณมาหา “ดาวคอฟฟี่” ทำไมเราจึงต้องแนะนำเครื่องชงกาแฟที่จะทำกาแฟของคุณได้คุณภาพที่ดี เพราะนั่นเป็นเรื่องที่จำเป็นมากๆ กาแฟจะอร่อยได้นอกจากวัตถุดิบดี มีบาริสต้าที่ดี อุปกรณ์เครื่องมือ ต้องดีด้วย
5. จำเป็นหรือไม่ ที่ต้องขายขนม คู่กับกาแฟ
สิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่เรื่องของคุณภาพของเครื่องดื่ม แต่ขนม หรือแม้แต่อาหารที่คุณขายในร้านก็ต้องอร่อย และมีคุณภาพเช่นกัน ซึ่งขนมที่จะนำมาขายในร้าน ควรคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก ถ้าเปิดในช่วงแรกๆ คุณยังไม่มั่นใจ แนะนำว่าควรหาขนมทานกับกาแฟที่มีอายุหลายวันหน่อย ถ้าเป็นประเภทเค้กสด อาจจะมีความเสี่ยง เพราะอยู่ได้แค่ 3-5 วันก็ต้องเปลี่ยน แต่ถ้าถามว่าควรมีวางขายในร้านมั๊ย ตอบว่า… “ควรมีค่ะ”
6. ทำเล…กับคุณภาพ อะไรมาก่อน
“คุณภาพ” เพราะต่อให้คุณได้ขายในทำเลที่ดีมากๆ แต่ลูกค้าเข้ามาซื้อแล้วกาแฟไม่อร่อย เค้าก็จะไม่กลับมา เพราะเชื่อเถอะว่าอีกซัก 100 เมตรถัดไป จะมีร้านกาแฟให้เลือกอีก คุณภาพจึงจำเป็นอย่างมาก ส่วนของขนาดของร้าน จะเป็นเรื่องของ Budget หรือ สถานที่ตั้ง สมมุติว่าคุณอยู่ในเมือง ค่าเช่าพื้นที่สูงมากจริงๆ ถ้าหากร้านคุณมีขนาดประมาณ 20-30 ตารางเมตร มีที่นั่งประมาณ 10 ที่นั่ง น่าจะพอสำหรับเปิดในเมือง เพราะวันธรรมดา อาจจะเน้นขายคนทำงานเป็นหลัก คือธรรมชาติของคนทำงานในเมืองจะใช้เวลาในร้านกาแฟสั้นๆ แค่มาสั่งแล้วกลับไปทำงาน
7. ไม่รู้เรื่องกาแฟเลย ขายกาแฟได้ไหม?
ถ้ามาหาดาว คอฟฟี่ เราจะบอกคุณถึงวิธีที่จะทำกาแฟให้อร่อย ถ้าลูกค้า Set-Up ร้านเรียบร้อยแล้ว เราจะแนะนำเรื่องเครื่องชงว่าควรเลือกแบบไหน สเป็คไหนให้เหมาะสม ต้องมีเซอร์วิสอย่างไร เหมือนกับคุณซื้อรถ ก็มี CRM หรือ บริการหลังการขาย เราจะสอนวิธีการชงที่ถูกต้องให้ด้วย รวมถึง Know-How เทคนิคการชง ไปจนถึงให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำธุรกิจกาแฟ
8. ทำเลดี แต่มีคู่แข่งมากๆ
“ไม่กลัวค่ะ” เรามั่นใจในคุณภาพของกาแฟ เรามีคาแร็คเตอร์กาแฟที่แตกต่าง เพราะฉะนั้นเรื่องของคุณภาพมันเลียนแบบกันไม่ได้
9. ทำอย่างไร จะได้เป็นเฟรนไชส์ซี ดาวคอฟฟี่
สำหรับ เฟรนไชส์ บอกเลยว่าเราเลือก จากที่เราเปิดตัวครั้งแรกที่งาน THAIFEX-World of food ASIA 2016 มีลูกค้าเข้ามาติดต่อเยอะเลย ซึ่งสิ่งที่เราจะบอกก็คือ คุณต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 40 ตารางเมตร แล้วเราจะเข้าไป Audit ก่อน ถ้ายังไม่ตรงตามสเปคที่ บริษัทแม่กำหนดไว้ และกรรมการไม่เห็นชอบ อาจจะยังไม่พิจารณาในตอนนั้น ส่วนเรื่องของ Budget อยู่ที่ 7 หลัก ซึ่งถ้าคุณผ่านมาตรฐาน เราจะดูแลคุณ ออกแบบร้านของคุณแบบร้านต่อร้าน
10. เปิดยังไง..ให้ “รอด”
ยังยืนยันว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดหากคุณอยากเปิดร้านกาแฟ คือเรื่องของคุณภาพ เพราะต่อให้คุณเอาเมล็ดกาแฟเราไปเปิดร้าน หรือชงกินเองที่บ้าน แต่ถ้ากาแฟแก้วนั้นของคุณไม่ได้คุณภาพ ก็จบ “ทุกวันนี้ ร้านกาแฟอยู่ได้ด้วยคำๆ นี้…”