แสตมป์ชุดรวมรางวัลโลก นานาชาติสดุดี “รัชกาลที่ ๙” เป็นตราไปรษณียากรหนึ่งใน 3 ชุดที่ออกเมื่อปี 2554 ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เป็นการรวม 7 รางวัลสำคัญที่องค์การระหว่างประเทศได้ทูลเกล้าฯถวายเพื่อสดุดีในพระราชกรณียกิจและพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ
- เหรียญ Agricola Medal เหรียญสดุดีพระเกียรติคุณในด้านการพัฒนาการเกษตร

(เหรียญที่ระลึกสดุดีพระเกียรติคุณ FAO เส้นผ่าศูนย์กลาง 50 มม. เนื้อโลหะทองคำ 75 % น้ำหนัก 60 กรัม ออกในปี 2549)
6 ธ.ค. 2538 องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (The Food and Agriculture Organization : FAO) มอบเหรียญ “อะกริคอลา” (Agricola Medal) ซึ่งเป็นเหรียญสดุดีพระเกียรติคุณในด้านการพัฒนาการเกษตร เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปีและสดุดีพระเกียรติคุณในพระราชกรณียกิจนานับประการ
- รางวัล WHO Award

(ในหลวง ร.๙ และพระราชินี ทรงเสด็จเข้ากราบนมัสการหลวงปู่ขาว อนาลโย ณ วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู ทั้งสองพระองค์ทรงเสด็จไปเยี่ยมอาการอาพาธหลายครั้ง ครั้งหนึ่ง ทรงพระอุตสาหะประกอบพิธี “ยืดอายุ” ของหลวงปู่ โดยทรงถือขันน้ำ บรรจุดอกไม้ห้าสี เข้าไปประเคน พอหลวงปู่รับแล้ว ก็ทรงไม่ให้หลวงปู่ “ทิ้งขันธ์” (เล่นคำ ขัน กับ ขันธ์) ขอให้หลวงปู่อยู่ไปอีกนานๆ)
24 พ.ย. 2535 Mr. Hiroshi Nakajema ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) นครเจนีวาสมาพันธรัฐสวิส ทูลเกล้าถวาย เหรียญทองสาธารณสุขเพื่อมวลชน เนื่องจากทรง บำเพ็ญพระราชกรณียกิจ นานัปการเพื่อประโยชน์ ทางด้านการสาธารณสุขของประเทศ
- รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์

(ภาพขณะที่นายโคฟี อันนัน กำลังถวายถ้วยรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ณ วังไกลกังวล)
26 พ.ค. 2549 ณ วังไกลกังวล สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) โดยนายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ทูลกระหม่อมถวายความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ จากการที่ได้ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย และทรงพระวิริยอุตสาหะในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ กว่า 4,000 โครงการเพื่อประโยชน์ และความเจริญอย่างยั่งยืนมาสู่ประเทศไทย
- เหรียญทองคำ The International Rice Award

(เหรียญ 10 บาท รางวัลวิจัยข้าวนานาชาติ ปี 2539 ประกาศใช้เมื่อ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2540 ผลิตจำนวน 5,000,011 เหรียญ กล่าวกันว่าเป็นเหรียญที่หายากอันดับ 2 ของเหรียญที่ระลึก)
5 มิ.ย. 2539 ณ พระบรมมหาราชวัง สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (International Rice Reserch Institude : IRRI) เมืองลากูนา ประเทศฟิลิปปินส์ ทูลเกล้าถวายเป็นรางวัลเหรียญทองคำ The International Rice Award ซึ่งถวายแด่ในหลวง ร.๙ พระองค์แรกเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี
- รางวัล Glory to the Greatest Inventor

(ในหลวง ร.๙ และเครื่องบินที่ใช้ในการผลิตฝนหลวง)
9 กันยายน 2552 ณ วังไกลกังวล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙ ทรงรับการทูลเกล้า ฯ ถวายรางวัล Glory to the Greatest Inventor : His Majesty King Bhumibol Adulyadej in the Year of Creativity & Innovation 2009) ของสหพันธ์สมาคมนักประดิษฐ์นานาชาติหรืออีเฟีย (The International Federation of Inventors? Associations -IFIA) สาธารณรัฐฮังการี
โดยมีพระบรมราโชวาท ณ งานวันนั้นว่า
“การประดิษฐ์ในโลกเป็นของสำคัญที่จะให้มีของพิเศษขึ้นมาและให้รางวัลกัน เพราะว่าการประดิษฐ์นั้นเป็นของสำคัญที่สุดของโลกของคนที่สนใจในความก้าวหน้า และถ้าไม่มีการสนใจในงานประดิษฐ์ เป็นสิ่งที่จะทำให้ไม่มีความก้าวหน้า การประดิษฐ์ด้านต่างๆจึงเป็นของสำคัญของโลก เพื่อจะให้โลกก้าวหน้าได้”
- ผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา

(เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก WIPO เนื้อทองคำขัดเงาบริสุทธิ์ : 99% หนัก 1 บาท ผลิตปี 2551 เพียง2,000 เหรียญ)
14 ม.ค. 2552 ณ วังไกลกังวล นายฟรานซิส เกอร์รี ผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization : WIPO) และคณะ เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อทูลเกล้าถวายเหรียญรางวัลผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา สืบเนื่องมาจากมติของ WIPO ในปี พ.ศ. 2551ที่เล็งเห็นว่า ในหลวง ร.๙ ทรงมีพระราชกรณียกิจที่ส่งเสริมและเผยแพร่บทบาทของทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างเด่นชัด
- รางวัล Brussels Eureka

(พ.ศ.2531 จากสภาพน้ำเน่าเสียที่ทวีความรุนแรงขึ้น ในหลวง ร.๙ จึงพระราชทานแนวพระราชดำริให้ประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศแบบประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งต่อมาเครื่องบำบัดน้ำเสียนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ “กังหันน้ำชัยพัฒนา”)
สืบเนื่องมาจาก พ.ศ. 2543 ดร.ชอบวิทย์ ลับไพรี อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และอดีตอัครราชทูตที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำกังหันน้ำชัยพัฒนาไปร่วมจัดแสดงและประกวดในงานแสดงสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของโลกวิทยาศาสตร์ “บรัสเซลส์ ยูเรกา” (Brussels Eureka 2000) และในครั้งนั้นทรงได้รับทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลรวมทั้งสิ้น 5 รางวัล